ความคืบหน้ากรณี การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ที่ระบุข้อมูลจากการสัมภาษณ์แม่ค้าขายทุเรียนในตลาดรถไฟขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พร้อมพาดหัวข่าวว่า ทุเรียนเวียดนาม! บุกเมืองขอนแก่น ขณะที่แม่ค้าร้านทุเรียนขอนแก่นแสดงจุดยืนปกป้องทุเรียนไทย เผยกังวลราคาส่งทุเรียนเวียดนามถูกกว่าไทยกว่าครึ่ง ดึงลูกค้าซื้อง่าย ยกทุเรียนไทยรสชาติดีกว่า คุณภาพดีกว่า แนะเกษตรกรปลูกทุเรียนให้ได้คุณภาพ
ทั้งนี้ การนำเข้าทุเรียนจากต่างประเทศ จะต้องมีใบรับรองสุขอนามัยพืช หากพบว่ามีผู้ลักลอบนำเข้ามาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยจำหน่าย จะต้องถูกดำเนินคดี ก่อนหน้านี้กรมวิชากการเกษตรก็เคยจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบนำเข้าทุเรียน บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 และมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งหลังจากเกิดกระแสข่าวทุเรียนจากเวียดนามเข้ามาตีตลาดในจังหวัดขอนแก่น นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้สั่งการ หัวหน้าด่านพืชในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งข้อมูลจากด่านตรวจพืชหนองคายระบุว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลการนำเข้าทุเรียนสดจากเวียดนาม การนำเข้าที่เป็นการค้าชายแดน ว่าการลักลอบการนำเข้าหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบทุเรียนที่ถูกตีกลับจากจีนว่าถูกลักลอบนำมาวางขายหรือไม่
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3ได้เข้าตรวจแผงขายทุเรียนที่ปรากฎในข่าว คือ ร้านจุ๊บจิ๊บแซ่บนัว โดยมีนางสาวมนัสนันท์ ผาสุข เจ้าของแผงขายทุเรียน จากการตรวจสอบเอกสารและผู้ดำเนินการแจ้งว่าไม่ได้ขายทุเรียนเวียดนาม โดยได้จำหน่ายทุเรียนที่ผลิตในประเทศไทยเท่านั้น โดยได้แสดงหลักฐานการซื้อขายทุเรียนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบนอกจากนี้เจ้าหน้าได้เข้าตรวจสอบที่ตลาดผักผลไม้ศรีเมืองทอง อู้ฟู่ แผงจำหน่ายทุเรียนเหียอ้อย ผู้ขายแจ้งว่าไม่รู้จักทุเรียนเวียดนามและไม่ได้จำหน่ายทุเรียนเวียดนามแต่ขายทุเรียนจากจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำถ้าจะจำหน่ายทุเรียนเวียดนามต้องนำเข้าให้ถูกกฎหมาย