วันที่ 19 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยได้ยืนยันโควตารัฐมนตรีในสัดส่วนเดิมต่อพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในบางกระทรวงอาจมีการสลับสับเปลี่ยน เพื่อความเหมาะสมกับการทำงาน โดยไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้น
ทั้งนี้ในการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอมา จะมีการเข้มงวดเรื่องการตรวจคุณสมบัติทุกคน เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ระบุเอาไว้ว่า “การพิจารณาว่าบุคคลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ตามมาตรา 160 (4) และไม่ฝ่าฝืนหรือปฏิบัติตามจริยธรรม 160 (5) เป็นดุลพินิจของนายกฯ ต้องเป็นผู้พิจารณาในฐานะผู้รับผิดชอบในการนำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการดังกล่าว”
“การตรวจสอบคุณสมบัติรอบนี้จะดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ น.ส.แพทองธาร ถูกร้องดำเนินคดีเหมือนกับนายเศรษฐา ทวีสิน โดยจะตรวจสอบคุณบัติของผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วย้อนหลังกลับไปด้วย รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหน้าใหม่ ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องปิดความเสี่ยงทุกด้าน เพื่อไม่ให้กระทบถึง น.ส.แพทองธาร ซึ่งอาจใช้เวลาในการพิจารณาการแต่งตั้งรัฐมนตรีนานกว่าที่คาดการเอาไว้ในช่วงแรก โดยจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์”
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรักษาการรัฐมนตรีที่ยังอยู่ในตำแหน่ง แต่อยู่ในรายชื่อถูกตรวจสอบย้อนหลัง ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า ในการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล และพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ปรากฏตัวร่วมงาน เช่นเดียวกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รักษาการ รมช.มหาดไทย พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด อาจถูกตรวจสอบคุณบัติอย่างเข้มข้นเช่นกัน