นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานรับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย ว่ามีการหลอกลวงคนไทยไปทำงาน “เกษตรในออสเตรเลีย”
โดยมี หญิงไทยร่วมกับสามีชาวออสเตรเลีย อ้างเป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มและอ้างว่าได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียสามารถช่วยให้คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานภาคการเกษตรในประเทศออสเตรเลียได้ โดยให้ชำระเงินประมาณ 53,460 บาท รวมถึงจะช่วยให้ได้รับสถานะการตรวจลงตราประเภทผู้มีถิ่นพำนักชั่วคราว โดยแรงงานจะได้เงินจำนวนดังกล่าวคืนภายใน 5 วันหลังจากที่ได้เริ่มทำงานแล้ว
ทำให้แรงงานไทยหลงเชื่อและชักชวนญาติคนรู้จักในประเทศไทยกว่า 100 คน โอนเงินจำนวน 7,290,000 บาท ให้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 นับแต่มีการโอนเงินก็ไม่สามารถนำแรงงานไทยเดินทางไปทำงานออสเตรเลียได้ และจากตรวจสอบไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการหลอกลวงคนหางาน
จึงขอย้ำว่า ก่อนติดสินใจไปทำงานต่างประเทศ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่จะเดินทางไปทำงานเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
ทั้งนี้กรมการจัดหางานขอแจ้งให้ประชาชนคนหางานทราบว่า ล่าสุดรัฐบาลออสเตรเลียเปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดใหม่ จึงขอยุติโครงการวีซ่าแรงงานเกษตรของออสเตรเลียที่อยู่ระหว่างเจรจากับประเทศไทย ซึ่งทำให้ไม่สามารถขอวีซ่าแรงงานภาคการเกษตรเข้าไปทำงานในออสเตรเลียได้
ก่อนหน้านี้กรมการจัดหางาน ได้ออกมาเตือนกรณีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ โฆษณาเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้ามาสมัครงาน เพื่อไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาลในสาธารณรัฐเกาหลีผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยอ้างว่าบริษัทเป็นผู้แทนนายจ้างในเมืองท้องถิ่นของประเทศเกาหลีและรับสมัครผู้เข้าอบรมเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรมเกาหลี เพื่อไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาล โดยเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้เข้าอบรม และค่าดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 6 หมื่นบาท
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนระบบอิเล็กทรอนิกส์กองทะเบียนจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง และผู้ที่จ่ายเงินให้กับบริษัทดังกล่าวยังไม่มีใครได้เดินทางไปทำงานที่เกาหลีตามที่บริษัทกล่าวอ้าง
นอกจากนี้ กรมการจัดหางาน ยังแจ้งให้ทราบว่า การจะจัดส่งแรงงานไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาลที่ประเทศเกาหลีได้ต้องทำข้อตกลง (MOU) ระหว่างกระทรวงแรงงานและเมืองท้องถิ่นของประเทศเกาหลีให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ยังไม่มีการทำ MOU แต่อย่างใด
ที่สำคัญการจัดส่งแรงงานเกษตรตามฤดูกาลจะเป็นการจัดส่งในลักษณะรัฐต่อรัฐ โดยกรมการจัดหางานจัดส่งเท่านั้น และงานเกษตรตามฤดูกาลเป็นงานระยะสั้น 6 – 8 เดือน เมื่อครบสัญญาจ้างแรงงานไทยจะต้องกลับประเทศ ดังนั้นนายจ้างจึงไม่เน้นด้านภาษา
ทั้งนี้ ขอให้ผู้สนใจติดตามข่าวสารจากกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ผ่านเว็บไซต์ doe.go.th/overseas เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ฝ่ายจัดส่งไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี EPS โทร 0 2245 6716 , 0 2245 9429