รัฐนาวารัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ฝ่าคลื่นลมรุนแรงมาเกือบ 1 ปี โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ ดังนั้น ใน 1 ปีของรัฐบาลเศรษฐามีโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้เร่งด่วนคือเศรษฐกิจ ผ่านธีมหลักตั้งแต่หาเสียง รวมเป็น 21 ผลงาน ดังนี้
เพิ่มรายได้
ผลงานที่ 1.เพิ่มราคาสินค้าเกษตร ทำให้ราคาเพิ่มเฉลี่ย 40% เช่น ยางพารา ก่อนตั้งรัฐบาล 40 บาท/กก. วันนี้ 60-70 บาท/กก. ลำไย ก่อนตั้งรัฐบาล กิโลกรัมละ 28 บาท ปัจจุบัน 30-45 บาท ข้าว ปัจจุบันราคารับซื้อข้าวเปลือกเฉลี่ยตันละ 10,000-20,000 บาท
ผลงานที่ 2.การต่างประเทศเชิงรุก ฟื้นความเชื่อมั่น เร่งกระชับความสัมพันธ์ เจรจา FTA และเพิ่มการค้าขาย ชักชวนการลงทุน เป็นผลให้มูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ FDI ปี 2566 สูงถึง 8.5 แสนล้าน ปรับเพิ่มขึ้น 72% เฉพาะไตรมาส 4 ของปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้น 145% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2565
ขณะที่สถานการณ์การส่งออกไทยไปสู่ประเทศคู่ FTA ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2567 มีมูลค่า 55,261 ล้านบาท ขยายตัว 0.4% จากช่วงเดียวกันของปี 2566
ผลงานที่ 3.ขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ผ่านมาตรการต่าง ๆ อาทิ ยกเว้นวีซ่า 60 วัน 93 ประเทศ พาสปอร์ตไทยขยับขึ้น 5 อันดับ ผ่านเข้าได้ 82 ประเทศ วีซ่าฟรีกับจีน ทั้งนี้ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้คนไทยยอดสะสมแล้ว 1 ล้านล้านบาท ตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคม 2567 เป็นยอดสะสมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยโตขึ้น 37% หรือ 14.76 ล้านคน สร้างรายได้ 7.01 แสนล้านบาท ขณะที่ยอดสะสมจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น 10% หรือ 84 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 4.01 แสนล้านบาท
ผลงานที่ 4.เร่งการลงทุน เน้นอุตสาหกรรมที่เป็นยุทธศาสตร์เพื่ออนาคต ทั้งผลิตรถ EV, Data Center, Semiconductor ผลิตอาหารจากผลิตภัณฑ์เกษตร จากทุกภูมิภาค ทั้ง ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน ซาอุดีอาระเบีย สวิตเซอร์แลนด์ โดยบริษัทที่ไปหารือ อาทิ AWS-Amazon Web Service, Supernap, NextDC Ctral Data Center, Telehouse, Microsoft, Google
ผลงานที่ 5.เพิ่มรายได้ให้ประชาชน โดยเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ในกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คน มีผลเมื่อ 13 เมษายน และทั้งประเทศภายในปีแรกที่เป็นรัฐบาล โดยมีเป้าหมายสูงสุด ค่าแรง 600 บาทต่อวันทั่วประเทศภายใน 2570 รวมถึงเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ 15,000 บาท เป็น 18,000 บาท ภายใน 2 ปี
ผลงานที่ 6.ส่งเสริม Soft Power 11 อุตสาหกรรม
ลดรายจ่าย
ผลงานที่ 7.พักหนี้เกษตรกร ผ่านหลายมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งนี้ มีผู้ได้ประโยชน์ 2.7 ล้านคน
ผลงานที่ 8.เป็นผลงานด้านลดรายจ่ายด้านพลังงาน ที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาลเศรษฐา ตั้งแต่ประชุม ครม.นัดแรกจนถึงปัจจุบัน โดยก่อนตั้งรัฐบาลอัตราค่าไฟอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย ปัจจุบัน 4.18 บาทต่อหน่วย
ผลงานที่ 9.แก้หนี้ประชาชนทั้งในและนอกระบบ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แบ่งเป็นหนี้ กยศ. 36 ล้านคน ผ่านมาตรการ อาทิ ลดเบี้ยปรับ 18% เป็น 0.5% ต่อปี ปรับลำดับการตัดเงินต้น ยุติการฟ้องร้องบังคับคดี ปรับโครงสร้างหนี้
หนี้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ-เติมสภาพคล่องผ่านสินเชื่อซอฟต์โลน 1 แสนล้านบาท หนี้ข้าราชการ ซึ่งมียอดมูลหนี้ 3 ล้านล้านบาท โดยมีการลดดอกเบี้ยสอดคล้องความเสี่ยง หักเงินเดือนให้มีเงินคงเหลือเพียงพอต่อการครองชีพ
ผลงานที่ 10.ปราบอาชญากรรมออนไลน์ โดยปิดกั้นเว็บพนันเพิ่มขึ้น 39 เท่า ปิดกั้นเว็บผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น 13.58 เท่า กวาดล้างบัญชีม้า 9.2 แสนบัญชี จากทั้งหมด 1.5 ล้านบัญชี ระงับซิมม้า 3.5 ล้านซิม
ขยายโอกาส
ผลงานที่ 11.เร่งรัดออกโฉนด เปลี่ยนพื้นที่รกร้างเป็นที่ทำกิน
ผลงานที่ 12.รับหลักการและผ่านกฎหมายฉบับสำคัญ พ.ร.บ.ประมง พ.ร.บ.อากาศสะอาด พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ พ.ร.บ.ประชามติ พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก
ผลงานที่ 13. แก้วิกฤต PM 2.5 ที่ต้นตอ มีการประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ดันร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดผ่านสภา กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ออกกฎควบคุมการนำเข้าข้าวโพดฤดูเผา ประสานเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชา สปป.ลาว ลดจุดความร้อน
ผลงานที่ 14.ขับเคลื่อน Digital Wallet มีการประกาศลงทะเบียน 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป และเริ่มแจกเงิน 10,000 ภายในไตรมาส 4 ทั้งนี้ มีรายงานว่ารัฐบาลจะดีเดย์เปิดเผยวันแจกเงินล่วงหน้าก่อน 1 เดือน
ผลงานที่ 15.ยกระดับบริการสาธารณสุข 30 บาทรักษาทุกที่
ผลงานที่ 16.แก้ปัญหายาเสพติดครบวงจร-เฉียบขาด สกัดกั้นผู้ค้าได้เพิ่มขึ้น 51% ตรวจยึดยาบ้าเพิ่มขึ้น 106%
ผลงานที่ 17.แก้น้ำกิน-น้ำใช้ทั้งระบบ ด้วยดำเนินการอย่างมียุทธศาสตร์ และการบริหารจัดการ
ผลงานที่ 18.ปรับลดกำลังกองทัพอย่างมีขั้นตอน ด้วยโครงการเกษียณก่อนกำหนด และส่งเสริมเพิ่มจำนวนสมัครทหารโดยสมัครใจ
ผลงานที่ 19.การคมนาคม นำร่อง 20 บาทตลาดสาย นำร่อง 2 สาย
MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางชื่อ-ตลิ่งชัน ผู้ใช้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ MRT สายสีม่วง เพิ่มขึ้น 17.94%
เดินหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้ม ปิดจบการประมูลที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2563 ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) 16 กรกฎาคม 2567 รฟม.-เอกชน ลงนามร่วมลงทุน ตั้งเป้าเปิดเดินรถภายในมกราคม 2571
ผลงานที่ 20.แลนด์บริดจ์ เชื่อมไทย-เชื่อมโลก ดึงนักลงทุนทั่วโลก คาดการณ์ส่วนแบ่ง 1 ใน 3 ของการคมนาคมผ่านช่องแคบมะละกาปัจจุบัน
ผลงานที่21.หวยเกษียณใบละ 50 บาท เริ่มต้นเฟสแรกปี 2568 เป้าหมายขายให้กับแรงงานนอกระบบ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 21 ล้านคน
