‘หมอวรงค์’ประกาศไทยภักดีปลดแอกชาวนา ผลักดันปลูก”หญ้าเนเปียร์”การันตีรายได้งาม

‘หมอวรงค์’ ประกาศชัด”ไทยภักดี”จะปลดแอกชาวนา เงินต้องได้เต็ม ได้ใช้พลังงานราคาถูก อยู่ดีกินดีแบบมีหลักประกัน พร้อมผลักดันให้ปลูกหญ้าเนเปียร์ การันตีรายได้ดี

วันนี้ (10 มิ.ย. 65) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมด้วย นายพุฒิพงศ์ สงวนวงศ์ชัยรองหัวหน้าพรรคและนายปฏิยุทธ ทองประจง กรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ร่วมพบปะพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังปัญหาของชาวบำเหน็จณรงค์ ณ สำนักงานพรรคไทยภักดี จังหวัดชัยภูมิ 

นพ.วรงค์ กล่าวว่า “รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเกียรติจากพี่น้องทุกท่าน ให้เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มีคำถามตลอดว่า พื้นที่อีสานปลูกข้าวหอมมะลิดีที่สุดในโลก แต่ปรากฎว่าชาวนาภาคอีสานกลายเป็นคนที่จนที่สุดในประเทศ แต่ทำไมคนที่อยู่ในวงการค้าข้าวรวยหมด ลงทุนจ้างอาจารย์มหาวิทยาลัยเก็บข้อมูลเรื่องข้าวทั้งประเทศ ย้อนหลัง 3 ปี เก็บข้อมูลข้าว 3 ชนิด คือ 1. ข้าวหอมมะลิ 2. ข้าวเหนียว 3. ข้าวจ้าว 

หลังเก็บข้อมูลพบว่า ชาวนามีกำไรโดยเฉลี่ยไร่ละ 1,700 บาท แต่คนค้าข้าวสารในข้าวทุกชนิดที่ถูกศึกษา มีกำไรรวมกันปีหนึ่งประมาณ 1.9 แสนล้าน นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่เคยมีพรรคการเมือง หรือนักวิชาการคนไหนศึกษา แต่ตามเรื่องข้าวมาตลอด และได้บทพิสูจน์แล้วว่าคนขายข้าวเปลือกจน คนขายข้าวสารรวย ดังนั้นถ้าเอาเปรียบเกินไปมีการกดขี่ชาวนามากเกินไปเราไม่ยอม ประกาศชัดเจนว่าระบบค้าขายข้าวของประเทศต้องเปลี่ยน อยู่แบบเดิมไม่ได้”

“ในแต่ละปีรัฐบาลตั้งงบปีละ 1 แสนล้านบาทกับการช่วยเหลือชาวนา เราจะเอาเงินภาษีตรงนี้มาเฉลี่ยคืนเหมือนระบบอ้อย เราจะไม่คืนเราจะเอาเงินก้อนนี้มาช่วยปลดหนี้ให้พี่น้องเกษตรกรรายย่อยทุกคน ไม่มีรัฐบาลชุดไหนกล้าที่จะช่วยพี่น้องปลดแอกจากการเอาเปรียบทุนค้าข้าว แต่พวกผมกล้าและทำอย่างตรงไปตรงมา ชาวนาต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาล พรรคอื่นคิดจะคิดอย่างไร ไม่ทราบ แต่ไทยภักดีจะทำสิ่งเหล่านี้”

4165B876 1FB9 4DA6 BCB0 B5C9FA1B6124

“ประเด็นที่ 2 เป็นประเด็นที่ใหม่มาก เรื่องนี้จะทำให้ได้ต่อสู้กับทุนพลังใหญ่ของประเทศ เราเป็นประเทศเกษตรกรรมรายใหญ่ของโลก แต่เราผลิตปุ๋ยไม่ได้ ในทุกวันนี้ราคาปุ๋ยแพงขึ้นทุกวัน แต่เราจะทำปุ๋ยยูเรียในราคาไม่เกินกระสอบละ 750 บาท ผลิตก๊าซหุงต้มกิโลกรัมละ 7 บาท และผลิตไฟฟ้าในราคาหน่วยละ 2.50 บาท โดยจะให้”ปลูกหญ้าเนเปียร์” ที่เป็นหญ้าพลังงาน เพื่อให้เป็นวัตุดิบในการผลิตปุ๋ยยูเรีย และขอให้หลักประกันว่าจะให้พี่น้องมีกำไรจากการปลูกหญ้าเนเปียร์โดยเฉลี่ย 10,000 บาทต่อไร่ พี่น้องเกษตรกรจะต้องได้ใช้ปุ๋ยราคาถูกแน่นอน เพราะเราผลิตได้เอง” 

236CE718 6E73 445A B744 7ABC86DE822B

“เวลาเราเป็นนักการเมือง ในการช่วยเหลือประชาชนเราจะปิดกั้นระบบไม่ได้ ความคิดนวัตกรรมสิ่งใหม่เหล่านี้ จะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศ ตนยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองพรรคไหนกล้าคิดและกล้าทำ เพราะเขาไม่มีเทคโนโลยีเหมือนพวกเรา และเขารับเงินจากทุนผูกขาดทั้งสิ้น แต่ไทยภักดีไม่รับเงินทุนเหล่านี้ ขอย้ำว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่เปลี่ยนประเทศครั้งใหญ่ เพื่อให้พี่น้องอยู่ดีกินดีแบบมีหลักประกัน เราสามารถทำให้พี่น้องเกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ปลดหนี้ได้ มีรายได้ที่มั่นคงนี่คือหน้าที่ของพวกตนที่จะต้องคิดนอกกรอบ คิดในสิ่งที่ดีและทันสมัยเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร สิ่งเหล่านี้จะเป็นการช่วยเหลืออย่างยั่งยืนแบบต่อเนื่องแน่นอน” นพ.วรงค์กล่าว

ขอบคุณข้อมูลข่าว จาก : เพจ Warong Dechgitvigrom