ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2567 โดยมี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ศาลาพระมิ่งขวัญ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร (ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร) ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระศรีอยุธยา ว่า “งานประกวดเส้นไหมฯ ประจำปี 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศยกย่องเชิดชู เยาวชน บุคคล ชุมชนและหมู่บ้านที่ผลิตผลงานคุณภาพ สามารถรักษาวิถีการผลิตเส้นไหม และการทอผ้าไหมไทยให้อยู่คู่ชุมชนอย่างเข้มแข็ง และเป็นการนำเสนอผลงานด้านภูมิปัญญาการผลิตไหมไทย ให้ได้รับการเชิดชูเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี อีกทั้ง อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นอาชีพที่อยู่คู่ประเทศไทยมายาวนาน สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกร และเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกทั้งในด้านความสวยงามและการมีเอกลักษณ์ รวมถึงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบต่อมาจากบรรพบุรุษ จึงควรค่าแก่การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นตามพระราชปณิธานในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชธานีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
“ขอชื่นชมและให้กำลังใจทุกท่าน ที่เข้าร่วมประกวดแข่งขันในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ และเกษตรกรผู้เลี้ยงหม่อนไหมจะช่วยกันสืบสานภูมิปัญญาต่อไป เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจสินค้าภาคเกษตรให้เกษตรกรไทยยกระดับรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 4 ปี ตามนโยบายรัฐบาล ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้“ รมว.ธรรมนัส กล่าวเสริม
สำหรับงานในวันนี้มีการจัดประกวดผ้าไหม และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ในระดับประเทศอีก จำนวน 32 ประเภท ได้แก่ การประกวดเส้นไหมไทยพื้นบ้าน 6 ประเภท การประกวดผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน 25 ประเภท และการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากผ้าไหม 1 ประเภท รวมถึงมีการแข่งขันสาวไหม และการจัดแสดงนิทรรศการด้านหม่อนไหม ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมหม่อนไหมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2567 จะสร้างความยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นกับผ้าไหมไทย ให้ภูมิปัญญาคงอยู่สืบสานเป็นมรดกทางวัฒนธรรมตลอดไป