จากการที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว “ชาวนาอำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ รวมกลุ่มแจ้งความหลังถูกบุคคลอุปโลกน์เป็นประธาน ตั้งกลุ่มโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว แล้วปลอมรายชื่อไปขอซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบึงกาฬ ออกมาขายถุงละ 600-700 บาท ให้ดำเนินคดีและเรียกร้องขอสิทธิ์คืนเพื่อให้ทันฤดูการปลูกปีนี้
.
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวเปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ นางสาวคนึงนุช พึ่มชัย ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบึงกาฬ ดำเนินการตรวจสอบข้อแจ้งและดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องชาวนาอย่างเร่งด่วน และให้ดำเนินการแจ้งความความเอาผิด นายเมธี จันนน ชาวอำเภอพรเจริญ ที่อ้างเป็นประธานกลุ่มโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวบึงกาฬ ที่มีพฤติกรรมนำเอกสารเท็จเพื่อหลอกลวงเจ้าหน้าที่ในการสั่งจองเมล็ดพันธุ์ข้าว และสวมสิทธิ์พี่น้องชาวนา
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า เรื่องนี้สืบเนื่องมาจาก กรมการข้าว ได้จัดทำ โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2566 หรือปีที่ผ่านมา เพื่อมุ่งเน้นส่งเสริมให้ชาวนาสามารถเข้าถึง และได้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีจากกรมการข้าวทั่วประเทศ โดยเกษตรกร สามารถเข้าร่วมโครงการได้ผ่านกลุ่มเกษตร และสถาบันเกษตรกร เช่น ศูนย์ข้าวชุมชนในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด ในราคาตามหลักเกณฑ์ของกรมการข้าวที่ได้กำหนดไว้ เพื่อให้ชาวนาได้มีเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีสำหรับการเพาะปลูก และขยายพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับปริมาณและคุณภาพผลผลิตข้าว ให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ โครงการนี้ต่อเนื่องสามปี และเกษตรกรที่เคยเข้าร่วมโครงการปีที่ผ่านมา ปีนี้จะไม่สามารถเข้าร่วมได้ เกษตรกรที่ไปแจ้งความดำเนินคดีประธานศูนย์ข้าวฯ เป็นกลุ่มที่ถูกแอบอ้าง ถูกสวมสิทธิ์ กรมการข้าวจะเข้าไปดูแลชาวนา ดูแลเกษตรกรอย่างเร่งด่วน
ในส่วนที่มีการพาดพิงเจ้าหน้าที่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้มีการทุจริตหรือปลอมแปลงเอกสารหรือไม่นั้น ในปีที่ผ่านมา ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนของเจ้าหน้าที่ของกรม ได้มีการลงโทษและดำเนินการสอบวินัยร้ายแรงกับ ผอ.ศูนย์คนก่อนและกรรมการ ผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 5 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
.
“ผมชัดเจนครับ คนโกงชาวนาผมไม่เอาไว้ เจ้าหน้าที่ผมสั่งสอบวินัยร้ายแรงไปแล้ว ส่วนคนที่อ้างเป็นประธานฯข้าวชุมชน ก็ให้ผอ.ศูนย์เมล็ดฯ ไปแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และให้ดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องชาวนาให้มีข้าวปลูกคุณภาพดีของกรมการข้าวไปใช้ให้ทันฤดูเพาะปลูกนี้ ” อธิบดีกรมการข้าวกล่าวทิ้งท้าย
