วันพุธที่ 17 เมษายน 2567 สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย น้อมเกล้าฯ ถวายน้ำเชื้อสุกรพันธุ์เหมยซานแช่แข็ง จำนวน 200 โดส และพ่อพันธุ์สุกรซูไท่สายพันธุ์เหมยซาน จำนวน 4 ตัว และแม่พันธุ์สุกรซูไท่สายพันธุ์เหมยซาน จำนวน 10 ตัว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน แด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีนายดนุชา สินธวานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ผู้รับมอบฝ่ายไทย และ Ms.Zhang Xiaoxiao Economic and Commercial Counselor ผู้แทนฝ่ายสถานทูตจีน โดยมีการขนส่งทางเครื่องบินจากท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง (Shanghai Putong International Airport) สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 17 เมษายน 2567 เที่ยวบิน CK289 มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 17.45 น. (เวลาโดยประมาณ)
โดยนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ มอบหมายให้นายธีรวิทย์ ขาวบุบผา ผู้อำนวยการกองงานพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ นายเฉลิมพล บุญเจือ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ตามพระราชดำริ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับมอบและอำนวยความสะดวกในการนำเข้า และขนส่งสุกร น้ำเชื้อสุกร ไปยังศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ตามพระราชดำริ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เพื่อกักกันโรคตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ ต่อไป
ทั้งนี้ ลักษณะเด่นหรือลักษณะประจำพันธุ์ ของสุกรพันธุ์นี้คือ มีลำตัวสีดำ หน้าผากย่น หนังย่นและหนา ใบหูยาวใหญ่ปรกหน้า บางตัวมีสีขาวที่ข้อเท้าทั้ง 4 เท้า มีเต้านมประมาณ 16-18 เต้า น้ำหนักโตเต็มที่ของพ่อพันธุ์ประมาณ 140 กิโลกรัม แม่พันธุ์ประมาณ 130 กิโลกรัม ด้านการเจริญพันธุ์ (Reproductive trait) สูงมาก โดยให้ลูกดกมาก ให้ลูกครอกแรก 12 ตัว/ครอก ครอกต่อไปประมาณ 16 ตัว/ครอก เฉลี่ยครอกละ 12-18 ตัว บางครั้งพบว่ามากถึง 30 ตัว สามารถเลี้ยงลูกได้รอดแทบทั้งหมดแม้จะมีลูกจำนวนมาก เป็นหนุ่มเป็นสาวเร็ว เริ่มเป็นสัดตั้งแต่อายุประมาณ 4 เดือน นอกจากลักษณะเด่นด้านการให้ลูกแล้ว สุกรพันธุ์เหมยซานยังมีความแข็งแรงทนทาน ปรับตัวเข้าสภาพแวดล้อมได้ดี