พาณิชย์ปูพรมระดมตรวจเข้มเครื่องชั่งรถยนต์รับซื้อปาล์มน้ำมันพื้นที่ภาคใต้ ป้องสิทธิ์ให้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ให้ความสำคัญเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายในการซื้อขายปาล์มน้ำมันตามลานรับซื้อทั่วเขตพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากในเขตพื้นที่ภาคใต้มีการเพาะปลูกปาล์มน้ำมันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งปาล์มน้ำมันถือว่าเป็นพืชเศรฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ทั้งในภาคธุรกิจพลังงานและภาคอุตสาหกรรม นำมาแปรรูปเป็นน้ำมันพืชสำหรับปรุงอาหาร หรือนำมากลั่นเป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำมันดีเซล ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้นั้นมีลานรับซื้อปาล์มน้ำมันจำนวนกว่า 3,000 แห่ง
กรมฯ จึงได้บูรณาการตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์รับซื้อปาล์มน้ำมันในพื้นที่ภาคใต้ โดยดำเนินการปูพรมระดมสายตรวจเฉพาะกิจทั่วประเทศออกตรวจสอบเครื่องชั่ง จัดชุดสายตรวจ จำนวน 10 สาย พร้อมตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน ถึง 8 กรกฎาคม2565 ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร และกระบี่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีลานรับซื้อปาล์มน้ำมันรวมกันทั้งสิ้น 2,147 แห่ง และ ได้จัดให้มีพิธีปล่อยขบวนรถสายตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์ ณ สหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด (CO-OP)
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบการใช้เครื่องชั่งที่สิ้นอายุคำรับรองหรือไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรอง เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในมาตรา 25 ซึ่งมีบทกำหนดโทษจำคุก
ไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 20,000 บาท และหากผู้ประกอบการรายใด นำเครื่องชั่งไปทำการดัดแปลงแก้ไขเพื่อให้น้ำหนักผิดเพี้ยนไปจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจรับรองไว้ จะมีความผิดตามมาตรา 75 มาตรา 75/1 และมาตรา 76 มีบทกำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายในเชื่อมั่นว่า การออกตรวจสอบในครั้งนี้จะช่วยให้เกษตรกรที่นำผลปาล์มไปขายได้รับความเป็นธรรมในการขายผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้เกษตรกรสามารถสังเกตจากสติ๊กเกอร์ตรวจสอบประจำปีของกองชั่งตวงวัด และหนังสือสำคัญแสดงการให้คำรับรองประจำเครื่องชั่งตวงวัด และหากเกษตรกรพบเห็น หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้เครื่องชั่งซื้อขายสินค้าเกษตร สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ