วันที่ 15 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายธนดล สุวรรณณฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในการประชุมวันนี้ มีการพิจารณาติดตาม การบริหารงบประมาณของกรมการข้าว และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อธิบดีกรมการข้าว อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รวมถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าให้ข้อมูล
โดย นายธนดล ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาช่วยติดตามด้านกฎหมายในเรื่องที่เกิดขึ้น ระบุว่า จะต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ ไม่อิงตามกระแส ซึ่งขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงแล้ว ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะเป็นโครงการที่เกิดขึ้นมานานแล้ว หากมีการทุจริตจริง โครงการก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้
พร้อมยืนยันว่า ยังมั่นใจในตัวอธิบดีกรมการข้าวว่า ไม่ได้ทุจริต และเป็นเพียงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งหากทำหน้าที่ได้ไม่ดี ก็อาจไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นอธิบดีตั้งแต่แรก จึงขอความเป็นธรรมแก่อธิบดี และเจ้าหน้าที่ด้วย ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกระแส
นายธนดล ยังกล่าวถึง กรณีงบประมาณของกรมการข้าวในวันข้าวไทย 10 ล้านบาท ที่มีการแบ่งเงินให้ศูนย์ละ 5แสนบาท เพื่อหลีกเลี่ยงการทำการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ ว่า กรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หลังมีผู้ร้องมาซึ่งต้องดูพยานหลักฐานเป็นหลัก ไม่ใช่ทำตามกระแส ยืนยันว่าการชี้แจงในวันนี้ไม่ใช่เป็นการนำผลสอบ ของกระทรวงเกษตรฯ มาชี้แจง โดยในส่วนของกรมการข้าวได้มีการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบหาข้อเท็จจริงว่ากระบวนการของ 4 โครงการนั้นเป็นอย่างไร ยืนยันว่า โครงการดำเนินการมานานแล้ว หากเกิดการทุจริตจริงคงไม่ดำเนินโครงการมาจนถึงขณะนี้ ส่วนตัวมั่นใจในการทำหน้าที่ของอธิบดีกรมการข้าว เพราะที่ผ่านมาเป็นแค่การกล่าวหาเท่านั้น
ด้านนายณัฏฐกิตติ์ กล่าวถึงการเตรียมการชี้แจงต่อกรรมาธิการในวันนี้ว่า ไม่ได้มีการเตรียมการใดๆ เพราะทุกอย่างอยู่ในสมองอยู่แล้ว ไม่มีเอกสารใดๆ และพร้อมชี้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา
พร้อมยืนยันว่า ไม่รู้สึกกดดัน เพราะตนเองไม่ได้ทำผิด และดำเนินโครงการตามขั้นตอน ไม่ได้พลิกแพลงอะไร โครงการก็เป็นไปตามงบประมาณ และวัตถุประสงค์ของโครงการ ไม่ผิดเงื่อนไขการใช้จ่ายงบประมาณ มีนิติกรของกรมฯ เข้ามาช่วยติดตาม เพราะกรมฯ ต้องดูแลเกษตรกรจำนวนมาก ทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการ ที่ได้ของบประมาณจากสำนักงบประมาณ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดำเนินการ ใช้เวลาในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวในการเก็บข้อมูล เพราะมีการดำเนินการของอีกฝ่ายคล้ายขบวนการ ส่วนมีใครมาคุกคามอยู่หรือไม่นั้น นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า ‘ไม่มี’
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้เรียกภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา ไปสอบปากคำ ในคดีตบทรัพย์ อธิบดีกรมการข้าว ระบุว่า ส่วนตัวสบายใจขึ้น เนื่องจากคดี ได้ดำเนินการมาแล้วหลายเดือน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงท้ายแล้ว
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ได้ติดตามงบประมาณของกรมการข้าวและกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยในส่วนของกรมการข้าวได้พิจารณาในส่วนของการใช้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งอธิบดีได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า เป็นส่วนของการใช้งบประมาณซื้อปุ๋ยที่เข้าบัญชีนวัตกรรมภาครัฐ หรือ BCG และส่วนที่เกี่ยวข้องกับเมล็ดพันธุ์ข้าวตรงไปยังศูนย์ข้าว 200 กว่าศูนย์ งบประมาณรวม 829 ล้านบาท โดยเมื่อโอนเงินไปยังบัญชี ธกส. ของศูนย์ข้าวต่างๆ แต่ละศูนย์ข้าวจะไปซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตรกันเอง กมธ.จึงมีมติส่งข้อสังเกตไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรมบัญชีกลาง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้พิจารณาว่ามีช่องทางใดที่จะสามารถออกระเบียบในการกำกับดูแลการใช้เงินอุดหนุนของศูนย์ข้าวชุมชนหลังจากนี้ต่อไปได้บ้าง