วันที่ 5 ก.พ.2567 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป.นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำเอกสารหลักฐานและแชทที่อ้างว่า ข้าราชการของกระทรวงเกษตร ส่งข้อมูลกล่าวหาการทุจริตให้กับบุคคลหนึ่ง โดยเชื่อว่าข้าราชการคนนี้เป็นคนที่นำข้อมูลกล่าวหาการทุจริตในกรมการข้าวและกรมฝนหลวง ไปส่งต่อให้กับนายเอกลักษณ์ หรือ “เอก ปากน้ำ” คีย์แมนขบวนการตบทรัพย์
โดยนายอัจฉริยะ บอกว่าข้าราชการของกระทรวงเกษตรที่อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์มีทั้งหมด 2 คน คนแรกเป็นข้าราชการระดับสูงในกรมการข้าว ชื่อ “นายโอ” โดยมีข้อมูลว่าคนนี้เป็นเพื่อนของนายเอก ปากน้ำ ด้วย จึงเชื่อว่ามีการสมรู้ร่วมคิดให้ข้อมูลกล่าวหาการทุจริตของกรมการข้าวและกรมฝนหลวง โดยตัวเองมีแชทที่นายโอ ส่งข้อมูลกล่าวหาการทุจริตให้กับคนหนึ่ง ช่วงปลายปี 2566 และต้นปี 2567 ซึ่งบุคคลนี้เคยถูกอธิบดีกรมการข้าวตั้งคณะกรรมการสอบ ซึ่งตนมองว่าอาจมีประโยชน์ต่อคดีหากมีการเรียกบุคคลนี้มาสอบปากคำ
และคนที่สอง คือ นาย ก.เป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเกษตร เป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการนำเรื่องกรมฝนหลวงไปให้นายเอกไปร้องสภา และเป็นผู้ชงข้อมูลให้คณะกรรมการตรวจสอบ
สำหรับ นาย ก. นายอัจฉริยะ อ้างว่า เป็นบุคคลที่กลุ่มของนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เคยเข้าไปพบที่ห้องในกระทรวงเกษตร ก่อนที่ห้องจะถูกไฟไหม้ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงมีการด่วนสรุปว่าเหตุไฟไหม้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร เร็วเกินไปที่จะสรุป โดยห้องที่มีเพลิงไหม้ เป็นห้องรวบรวมเอกสารของกรมการข้าวและกรมฝนหลวง ซึ่งมีความเชื่อมโยงในคดีรีดทรัพย์ของ นายศรีสุวรรณ มีหลักฐานว่าหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในขบวนการ นายศรีสุวรรณ ได้ขึ้นไปพบกับข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเกษตรฯ ที่ห้องดังกล่าว อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งวัน
สำหรับข้อมูลที่นำมาให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป.ตรวจสอบในวันนี้นายอัจฉริยะ อ้างว่า นำมาจากคนในกระทรวงเกษตรที่นำข้อมูลมาให้ซึ่งเป็นพยานที่จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ปปป.ด้วย โดยหลังจากนี้ก็ต้องรออำนาจพนักงานสอบสวนในการออกหมายเรียกข้าราชการ 2คนนี้ เข้าให้ปากคำ
“ผมมองว่ามุมที่เขาเรียกรับเงินก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่มุมข้อมูลที่เขามีก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีประโยชน์ เราไม่มองเขาเป็นผู้ต้องหา มองว่าถ้าข้อมูลเขาดี นำมาใช้ตรวจสอบการทุจริตได้ ถือว่ามีประโยชน์”
นายอัจฉริยะ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอ้างว่า ช่วงกลางปี 2566 เอก ปากน้ำ เคยนำข้อมูลกล่าวหาการทุจริตตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2565 มามอบให้กับตัวเองเป็นข้อมูลกล่าวหาการทุจริตรวมเกือบแสนล้านบาท ซึ่งหนึ่งในนั้นมีข้อมูลทั้งเรื่องเรือดำน้ำและการฮั๊วประมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างอาคาร 191 จำนวน 7,000 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้มีการร้องกรรมาธิการรัฐสภา 2 คณะ แต่ปรากฏว่าภายหลังก็มีการถอนเรื่องจากกรรมาธิการ ทั้ง 2คณะ ซึ่งตัวเองเชื่อว่าคงมีการพูดคุยและเคลียร์กันแล้ว ถึงไม่ร้องเรียนต่อ
ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้นายยศวริศ ออกมาแถลงข่าวซึ่งช่วงหนึ่งมีการกล่าวสาบานสาปแช่งว่าหากตัวเองเรียกรับผลประโยชน์อยู่ในแก๊งตบทรัพย์ขอให้มีอันเป็นไป เรื่องนี้นายอัจฉริยะ มองว่า หากอยากสาบานจริงก็ให้ไปสาบานที่วัดหงษ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเชื่อว่าสาบานยังไงก็ตายแน่ พร้อมขอบคุณที่ออกมาแถลงข่าวเพราะเหมือนเป็นการยอมรับว่ามีคลิปเสียงและแชทสนทนาเป็นหลักฐานจริง