ที่อาคารรัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส. และรองโฆษกพรรคก้าวไกลในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ กล่าวถึง กรณีไฟไหม้ที่กระทรวงเกษตรทำให้เอกสารในห้องของผู้ช่วยรัฐมนตรี บางส่วนเสียหาย ว่า มีข้อกังวลว่าเอกสารที่ไหม้มีความสำคัญมากแค่ไหน แต่สิ่งที่อยากจะฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ คือมีกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นหรือไม่ มีใครเข้าไปในบริเวณนั้นหรือไม่ เพราะในพื้นที่ที่เก็บเอกสารสำคัญปกติแล้วคนที่จะผ่านจะต้องผ่านระบบความปลอดภัยก่อน แต่หากไม่ใช่ของเอกสารสำคัญ ถ้าไหม้ไปก็ไม่มีปัญหา แต่ยังอยากดูสัญญาจัดซื้อจัดจ้างซึ่งในหน่วยงานราชการจะมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนควัน มีการบำรุงรักษามากแค่ไหน มีการใช้งบประมาณในส่วนนี้มากแค่ไหนและความเสียหายที่เกิดขึ้นเหมาะสมกับงบประมาณที่ใช้ในการป้องกันหรือไม่ รวมถึงเอกสารที่เสียหายมีผลกับหน่วยงานฝนหลวงที่กำลังจะถูกชี้แจงวันที่ 15 ก.พ.นี้หรือไม่ซึ่งอธิบดีได้มีการตอบรับกรรมาธิการตรวจสอบงบแล้วว่าจะเข้ามาชี้แจงรวมถึงอธิบดีกรมการข้าวด้วย
“ทั้งนี้ ในขั้นต้นได้ตั้งคำถามไปว่าเราสงสัยในเรื่องใด และหวังว่าจะไม่โชคดีขนาดไฟไหม้เอกสารสำคัญที่ต้องมาชี้แจง แต่ถ้าหากมีการไหม้จริงๆก็ต้องมีรายการไล่บี้ว่าเหตุใดจึงเกิดไฟฟ้าลัดวงจรอย่างที่รัฐมนตรีช่วยได้บอก รวมถึงนายกรัฐมนตรีที่บอกว่า ไม่ใช่ไฟฟ้าลัดวงจรแต่เป็นช่างซ่อมแอร์ ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงก็อยากจะขอเจอช่างที่เข้ามาซ่อม รวมถึงเอกสารหลักฐานต่างๆที่ติดต่อช่างเข้ามาซ่อม เพื่อดูว่าความจริงว่านายกรุณมีช่างเข้าไปซ่อมจริง หรือไฟฟ้าลัดวงจรหรือเกิดจากเหตุการณ์ใดกันแน่ ต้องมีคำตอบให้กับประชาชน เพราะของที่ไหม้ถึงจะเป็นของของกระทรวงเกษตรแต่ก็เป็นภาษีจากประชาชนเช่นกัน
นายกรุณพล ยืนยันว่า กรรมาธิการไม่ได้หนักใจในการตรวจสอบ เพราะมีเอกสารอยู่ในมือประมาณหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งเอกสารที่ได้มามีลายเซ็นคำสั่งของทั้งอธิบดี รองอธิบดีและเอกสารรายรับ รายจ่าย ที่ตนเชื่อว่า แม้จะไม่มีเอกสารใดๆอธิบดีไม่ได้มีปัญหาด้านความจำสั้น ก็น่าจะตอบคำถามกรรมาธิการได้อย่างชัดเจน เพราะเวลายังผ่านมาไม่ถึงปีและเป็นงบประมาณก้อนใหญ่หลายร้อยล้าน ลายเซ็นชัดเจนว่าเป็นของอธิบดี ตนเชื่อว่าถ้าตอบกันอย่างตรงไปตรงมาก็น่าจะตอบคำถามกรรมาธิการได้
สำหรับ กรณีที่นายไชยา พรหมมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา 5 คณะ เพื่อมาดูแลดำเนินโครงการจัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวงนั้น นายกรุณพล กล่าวว่า จริงๆฟังได้ แต่การที่กรรมาธิการตั้งข้อสงสัยไม่ได้หมายความว่าเกิดการทุจริตแต่เราเกิดข้อสงสัยว่าเหตุอันใดที่จำเป็นจะต้องเป็นบริษัทนี้ จึงจำเป็นจะต้องเป็นเครื่องบินสเปคนี้ และทำไมจะต้องเป็นราคาเท่านี้ ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือส่งกำลังบำรุงหรือซ่อมบำรุงมากน้อยแค่ไหนเป็นการตั้งคำถามเพื่อที่จะให้ใช้ภาษีประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตนเชื่อว่าต่อให้เราตั้งคำถามอย่างไรแต่ถ้ามีคำตอบที่สงสัยชัดเจนและประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจสอบได้ตนว่าไม่มีปัญหา ขออย่ากังวลว่ากรรมาธิการตั้งคำถามแล้วจะกลายเป็นผู้ผิดหรือผู้ทุจริต
“อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ทางกรมฝนหลวงยืนยันว่าอธิบดีจะเข้ามาชี้แจงเอง แต่อธิบดีกรมการข้าว ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะมาด้วยตนเองแต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในขณะที่สังคมตั้งข้อสงสัยในตัวอธิบดีกรมการข้าว ทั้งเรื่องที่นายศรีสุวรรณ ร้องเรียนหรือเรื่องที่ได้ยินจากหน่วยงานต่างๆมา ก็อยากให้อธิบดีมาชี้แจงเพื่อขจัดข้อสงสัยและเปิดโอกาสให้ซักถาม รวมถึงชี้แจงเอกสาร ซึ่งตนเชื่อว่าข้าราชการในประเทศนี้ทำงานได้ภาษีที่มาจากประชาชน ก็จะสามารถตรวจสอบได้จากผู้แทนที่มาจากประชาชน”