โฆษก รบ. แจงนายกฯมองการณ์ไกลสั่ง สมช. เจ้าภาพเตรียมการแก้ปัญหาความมั่นคงด้านพลังงาน- อาหาร- เกษตร

วันที่ 24 มิถุนายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า รัฐบาลแก้วิกฤตพลังงานโดยใช้แต่ราชการ รัฐมนตรีมีไม่ใช้ ให้ฝ่ายความมั่นคงนำทุกเรื่องว่า นายกฯสั่งเตรียมหามาตรการเพื่อแก้ปัญหาทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงทางด้านพลังงาน ความมั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงด้านเกษตร ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคมฯลฯ

ในส่วนวิกฤตพลังงานก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด ไม่ทราบว่าตอนนั้นนายณัฐวุฒิ กำลังไปร่วมชุมนุมกับม็อบอยู่ที่ไหนหรือไม่จึงทำให้ไม่ทราบ นอกจากนี้นายกฯ ยังกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ติดตามอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

IMG 56091 20220624124700000000 scaled
แจงนายกฯ สั่ง สมช. เจ้าภาพแก้ปัญหาความมั่นคงพลังงาน- อาหาร- เกษตร

ขณะที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งนายณัฐวุฒิอ้างว่าถูกใช้เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ปัญหาในหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่า นายกฯ มองถึงปัญหาวิกฤตต่าง ๆ ทุกด้านที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย การแก้ปัญหาต่างๆ จึงไม่ใช่การวางแผนดำเนินการให้เสร็จได้ภายในเวลาไม่กี่วัน เป็นการวางแผนไว้รองรับสถานการณ์ข้างหน้าเพราะมองว่าปัญหาสงครามรัสเซีย ยูเครน คงยังไม่ยุติในเร็ววันส่งผลกระทบกับไทยในหลาย ๆ ด้าน นายกฯ จึงสั่งการให้ สมช.เป็นเจ้าภาพเตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงด้านพลังงาน ด้านอาหารและทุก ๆ ด้านในระยะยาวต่อไปด้วย โดยมีอีกหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมดำเนินการเพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาในอนาคต

“คุณณัฐวุฒิอาจจะมองแค่ในมุมของตัวเอง โดยเชื่อว่าประชาชนได้ข้อสรุปแล้วว่านายกฯ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ เหมือนกับที่เคยเชื่อว่า การออกมานำม็อบจะช่วยใครคนใดคนหนึ่งให้กลับประเทศได้ หรือที่เคยเชื่อว่าการใช้เสียงข้างมากแบบพวกมากลากไปในสภาฯจะผลักดัน พ.ร.บ. สุดซอยให้ออกมาเป็นกฎหมายได้ แต่สุดท้ายคุณณัฐวุฒิก็ควรต้องยอมรับความจริงด้วยว่า พรรคของคุณณัฐวุฒิ เองก็เคยคาดการณ์ผิด จนสภาฯ แทบลุกเป็นไฟมาแล้ว ดังนั้น ไม่อยากให้คิดและทึกทักเอาเอง ประชาชนจะสับสนเปล่า ๆ ถ้าไม่รู้จริง หรือยังมีข้อมูลไม่มากพอ ก็ถามก่อนวิจารณ์ได้ รัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกประเด็นอยู่แล้ว” นายธนกร กล่าว

ทั้งนี้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช. ดูแลความมั่นคงอาหารและพลังงานว่า การมอบหมาย สมช. วางแผนรับมือวิกฤตพลังงาน คือการซ้ำเติมชะตากรรม และทำลายความหวังของประชาชนอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ใช่บทบาทหลักที่ สมช.จะทำหน้าที่

ถ้าเป็นรัฐบาลอื่น นายกฯต้องออกโรงเองกับปัญหาใหญ่ขนาดนี้ หรืออย่างน้อยก็รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ แต่รัฐบาลนี้ใช้ สมช.ในทุกวิกฤต โควิด-19 จนถึงราคาน้ำมัน ทุกเรื่องถูกกำหนดเป็นปัญหาความมั่นคง เพื่อให้ สมช.เข้าทำหน้าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งถูกอธิบายตอนแต่งตั้งว่า เป็นคนจากสายพลังงานเชี่ยวชาญเรื่องนี้ กลับมีบทบาทรองในการวางแผนรับมือวิกฤตระยะยาว

นอกจากปัญหาราคาน้ำมัน ราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้น ยังมีปัญหาความเชื่อมั่นของประชาชนที่ถูกกระชากให้ต่ำลง สภาพแบบนี้นายกฯยังมั่นใจว่าจะอยู่ได้ แต่คนจำนวนมากกังวลว่าจะไม่รอด

การบริหารแบบรัฐราชการ ใช้หน่วยงานความมั่นคงเดินนำ ไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหาประเทศ ถ้าสภาความมั่นคงแห่งชาติทำทุกอย่างได้จริง ก็ควรให้เลขา สมช.เป็นนายกฯ

8 ปีมาแล้วที่ประเทศเป็นอยู่แบบนี้ เชื่อว่าประชาชนได้ข้อสรุปแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรไปต่อหรือพอแค่นี้