วันที่ 20 ม.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เยี่ยมชมตลาดจริงใจ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตลาดเอกชนที่นำสินค้าชุมชนและเกษตรกรที่กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาให้การสนับสนุนมาขายโดยตรงให้กับผู้บริโภค ซึ่งมีทั้งสินค้าเกษตรเช่นผักผลไม้และสินค้าหัตถกรรมของชาวบ้านที่มีรายได้น้อย และไม่มีช่องทางในการจำหน่าย เช่น ผักปลอดสารพิษ กาแฟ เสื้อผ้าที่ผลิต หรือถักทอ จากกลุ่มแม่บ้าน บนพื้นที่สูง โดยประชาชนได้มอบดอกกุหลาบสีแดง พร้อมสติ๊กเกอร์ข้อความ “รักนายกเศรษฐา”
ทั้งนี้นายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมร้านขายสินค้าต่าง ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค และร้านกาแฟ เป็นต้น
จากนั้นนายกฯ รับฟังบรรยายสรุปโครงการของกลุ่มเครือเซ็นทรัล ที่ดำเนินการซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากความรับผิดชอบต่อสังคม ( CSR )สู่การสร้างสรรค์คุณค่าธุรกิจสู่สังคม(CSV)
ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีเดินเยี่ยมชมและศึกษาเมล็ดกาแฟที่เป็นผลผลิตจากเกษตรกรพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ข้างเคียง เช่น เมล็ดกาแฟดอยขุนวาง อำเภอแม่วาง เมล็ดกาแฟดอยขุนช้างเคี่ยน อำเภอเมือง โดยข้อมูลจากสำนักนโยบายยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ปัจจุบันไทยมีพื้นที่ปลูกเมล็ดกาแฟถึง 250,000 ไร่ และมียอดส่งออกกาแฟเป็นอันดับ 8 ของโลก รวมทั้งยังได้ร่วมชิมกาแฟจากร้าน Mix Kaffe ซึ่งเป็น 1 ในร้านกาแฟจากผู้ประกอบการรายย่อยที่เข้าร่วมออกงาน Chiang Mai Coffee Week ระหว่างวันที่ 18 – 21 มกราคม 2567 เวลา 06.30 – 21.00 น. ณ ตลาดจริงใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับบาริสต้าเจ้าของร้าน ชื่มชมรสชาติและรูปแบบการนำเสนอกาแฟ สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลที่พร้อมส่งเสริมกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย รวมไปถึงภาคเกษตรกรต้นทางผลผลิต ทั้งเมล็ดกาแฟไทย และร้านกาแฟของคนไทย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมในโซนตลาดจริงใจ Farmers Market ซึ่งเป็นตลาดผักเกษตรอินทรีย์ที่จำหน่ายพืชผัก ผลไม้ ออร์แกนิคและปลอดสารจากเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น จากอำเภอพร้าว สารภี สะเมิง ดอยสะเก็ด ไชยปราการ แม่อาย โดยภาคเอกชนได้สนับสนุนผ่านการส่งเสริม ให้ความรู้แก่เกษตรกรในการปลูกผลิตภัณฑ์เกษตรแต่ละชนิดให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งเป็นตัวแทนในการรับผลผลิตเข้ามาขาย และหาช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังตลาดและกระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจากเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ตลาดจริงใจสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนได้กว่า 295 ล้านบาท
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เดินชมผลิตภัณฑ์จากกลุ่มตลาดสินค้าทำมือ ซึ่งได้รวบรวมช่างฝืมือท้องถิ่นไว้ในพื้นที่ถึง 190 ร้านค้า เช่น การทอผ้าท้องถิ่น การออกแบบเสื้อผ้าพื้นเมืองให้ร่วมสมัยจาก young designer ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันภายในตลาดจริงใจ
ทั้งนี้ ตลาดจริงใจ (จริงใจ Farmers Market เชียงใหม่ และรัสติคมาร์เก็ต) เป็นหนึ่งในโครงการของเครือกลุ่มเซ็นทรัลที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดรักษ์โลก (Eco-friendly) และ CSV (Creating Shared Value) เพื่อส่งเสริมเกษตรกร ช่างฝืมือท้องถิ่น และผู้ประกอบการรายย่อย ตลอดจนดีไซเนอร์และศิลปินไทยในแต่ละแขนง พร้อมทั้งเป็นพื้นที่แบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกับคนท้องถิ่นและชุมชน จัดแสดงผลงานส่งเสริมภูมิปัญญาอัตลักษณ์ไทย เปิดพื้นที่ในการสร้างประโยชน์เพื่อสังคมร่วมกัน โดยภายในจริงใจมาร์เก็ต แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ อาหาร (Food) ศิลปะและงานออกแบบ (Art & Design) และงานฝีมือ (Craft) เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 06.30 – 15.00 น.
ผู้สื่อสื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจขอถ่ายรูปและทักทายนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้เชิญชวนให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยและบอกว่าประเทศไทยมีของดีอีกมาก
ทั้งนี้ การพานักธุรกิจลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า เขาไม่ได้ต้องการเงินจากท่าน แต่สิ่งที่เค้าต้องการคือ Love and Attention (ความรักและความเอาใจใส่) จากทุกท่านในที่นี้