สศท.4 ชู “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก” จ.กาฬสินธุ์ ต้นแบบการเพิ่มมูลค่าข้าวอินทรีย์อย่างยั่งยืน

372024810
นายนพดล ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการ สศท.4

นายนพดล ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น (สศท.4) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน โดยส่งเสริมการทำเกษตรกรรมยั่งยืนในรูปแบบต่างๆ เช่น เกษตรอินทรีย์ เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน วนเกษตร และการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ซึ่งเน้นการบริหารจัดการฐานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดโซ่อุปทาน สามารถผลิตอาหารที่ปลอดภัย มีคุณภาพมาตรฐาน ตลอดจนดูแลรักษาระบบนิเวศให้มีความสมดุลยั่งยืน

วิส
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก
นาโก 1
“วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก” ต้นแบบการเพิ่มมูลค่าข้าวอินทรีย์อย่างยั่งยืน

สศท.4 ได้ให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน จึงได้ศึกษาแนวทางการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโกตำบลนาโก อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งผลผลิตของกลุ่มได้รับรองมาตรฐาน Organic Thailand และได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดข้าวสารบรรจุถุงคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2565 โดยกลุ่มวิสาหกิจฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน เมื่อปี 2557 มีนางสาววิจิตรา แสงทอง เป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจฯ ปัจจุบันมีเกษตรกรสมาชิก 56 ราย พื้นที่เพาะปลูกรวม 431 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรที่เป็นเครือข่ายข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ตำบลนาโกอีก 246 ราย รวมพื้นที่เพาะปลูกของกลุ่มวิสาหกิจฯ และเครือข่าย จำนวน 1,998 ไร่

นาโก 2
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก

สถานการณ์การผลิตของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโกเกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวอินทรีย์ ทั้งข้าวเจ้านาปี (หอมมะลินาปี) และข้าวเหนียวนาปี (กข.6) ซึ่งหากจำแนกรายละเอียดของข้าวทั้ง 2 สายพันธุ์ พบว่า ข้าวเจ้านาปี (หอมมะลินาปี) มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 5,650.39 บาท/ไร่/ปี เกษตรกรเพาะปลูกช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม เก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม ได้ผลผลิตเฉลี่ย 467.93 กิโลกรัม/ไร่/ปี ราคาที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นา ความชื้น 15% เฉลี่ยอยู่ที่ 14,460 บาท/ตัน หรือ 14.46 บาท/กิโลกรัม เกษตรกรได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 6,766.27 บาท/ไร่/ปี ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 1,115.88 บาท/ไร่/ปี ข้าวเหนียวนาปี (กข.6) มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 5,311.20 บาท/ไร่/ปี เกษตรกรเพาะปลูกช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม เก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม ได้ผลผลิตเฉลี่ย 484.86 กิโลกรัม/ไร่/ปี ราคาที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นา ความชื้น 15% เฉลี่ยอยู่ที่ 12,860 บาท/ตัน หรือ 12.86 บาท/กิโลกรัม เกษตรกรได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 6,235.30 บาท/ไร่/ปี ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 924.11 บาท/ไร่/ปี

วิสา
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก

ด้านภาพรวมของสถานการณ์ตลาด พบว่า ข้าวเจ้านาปี (หอมมะลินาปี) ผลผลิตส่วนใหญ่ ร้อยละ 77 เกษตรกรจำหน่ายให้กับกลุ่มวิสาหกิจฯ เพื่อแปรรูปและจำหน่ายเป็นข้าวสารให้กับโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งได้มีการทำ MOU ร่วมกัน ทำให้ได้ราคาข้าวที่มั่นคงและเป็นธรรมในราคา 36 บาท/กิโลกรัม รวมถึงยังมีการจำหน่ายทางออนไลน์ผ่านเพจ Facebook “ข้าวสินเหล็กนาโก” การออกบูธ และจำหน่ายเป็นเมล็ดพันธุ์ ส่วนผลผลิตร้อยละ 23 เกษตรกรเก็บผลผลิตไว้บริโภคภายในครัวเรือนและเป็นเมล็ดพันธุ์ ข้าวเหนียวนาปี (กข.6) ผลผลิตส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.2 เกษตรกรจำหน่ายให้กับกลุ่มวิสาหกิจฯ เพื่อจำหน่ายเป็นเมล็ดพันธุ์ และมีการแปรรูปเป็นข้าวสารจำหน่ายให้กับผู้บริโภคผ่านทางออนไลน์ การออกบูธ และจำหน่ายที่ Tops Supermarket ส่วนผลผลิตร้อยละ 45.8 เกษตรกรเก็บผลผลิตไว้บริโภคภายในครัวเรือนและเป็นเมล็ดพันธุ์

ขนม
“วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก” ต้นแบบเพิ่มมูลค่าข้าวอินทรีย์

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวอินทรีย์อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวอินทรีย์ อาทิ ขนมข้าวพองแบบแผ่น (Pop Rice) และน้ำสาเกหวาน หรือน้ำอามาซาเกะ โดย สศท.4 ได้ดำเนินการวิเคราะห์แนวทางการเพิ่มมูลค่าข้าวอินทรย์ของกลุ่มวิสาหกิจฯ ดังนี้ ขนมข้าวพองแบบแผ่น (Pop Rice) เป็นการนำข้าวหักจากกระบวณการสีมาอบกรอบ และเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวพองอบกรอบ ซึ่งประกอบด้วยรสต่าง ๆ เช่น หน้านมเนย หน้าอัลมอนด์ เป็นต้น ขายในราคาเฉลี่ยแผ่นละ 0.3 บาท หากพิจารณาการเพิ่มมูลค่า จะเห็นได้ว่าขนมข้าวพองเกิดจากข้าวหักซึ่งมีราคา 8 บาท/กิโลกรัม และข้าวหัก 1 กิโลกรัม สามารถผลิตขนมข้าวพองแบบแผ่น (Pop Rice) ได้ 450 แผ่น นั่นหมายความว่า จากมูลค่าข้าวหัก 8 บาท/กิโลกรัม เพิ่มมูลค่าขนมข้าวพองแบบแผ่น (Pop Rice) เท่ากับ 135 บาท/กิโลกรัม มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 127 บาท (เพิ่มขึ้น 15 เท่า)

เป็น
“วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก” ต้นแบบเพิ่มมูลค่าข้าวอินทรีย์

อีกหนึ่งสินค้าที่น่าสนใจ คือ น้ำสาเกหวาน หรือ น้ำอามาซาเกะ เป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการหมักข้าว และโคติ ด้วยอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม จนได้เครื่องดื่มที่มีสีขาวขุ่นรสหวาน และอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ขายในราคาขวดละ 49 บาท หากพิจารณาการเพิ่มมูลค่าพบว่า จากข้าวสารเหนียว 300 กรัม สามารถผลิตน้ำอามาซาเกะได้ 10 ขวด หรือ 2 ลิตร ข้าวสารเหนียว 300 กรัม มีมูลค่าเท่ากับ 10.5 บาท (ราคา 35 บาท/กิโลกรัม) เท่ากับน้ำอามาซาเกะ 10 ขวด ซึ่งมีมูลค่า 490 บาท จะเห็นได้ว่าจากข้าวสารเหนียวมูลค่า 10.5 บาท สู่น้ำอามาซาเกะมูลค่า 490 บาท มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 479.5 บาท (เพิ่มขึ้น 45 เท่า)

วิสาห
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก

ปัจจุบันขนมข้าวพองแบบแผ่น (Pop Rice) เน้นขายตลาดภายในประเทศ ผลิตตามคำสั่งซื้อและอยู่ในระหว่างพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับเครื่องดื่มน้ำสาเกหวานหรืออามาซาเกะ (Amazake) มีเป้าหมาย ด้านการตลาดส่วนใหญ่ที่ตลาดตะวันออกกลาง ร้อยละ 40 , รองลงมา ตลาดจีน ร้อยละ 30 , อเมริกา ร้อยละ 20 และตลาดในประเทศ ร้อยละ 10 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาการค้ากับประเทศดูไบและพัฒนากระบวณการผลิต ทั้งนี้ หากท่านใดสนใจข้อมูลสามารถติดต่อได้ที่ นางสาววิจิตรา แสงทอง ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก ตำบลนาโก อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ โทร 08 1867 8516 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.4 โทร 0 4326 1513 อีเมล zone4@oae.go.th

วิสส
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก

วิห
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์เป็นสุขนาโก