ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อนุญาตให้คณะกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ระดับประเทศ และคณะกรรมการเครือข่ายแปลงใหญ่ ระดับประเทศ เข้าพบ เพื่อรับมอบนโยบายภาคการเกษตร ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยในส่วนของคณะกรรมการเครือข่าย ศพก. มีแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานในปี 2566 ได้แก่ 1) การพัฒนาศักยภาพของ ศพก. และศูนย์เครือข่าย 2) การพัฒนาเกษตรกร 3) สนับสนุนการให้บริการของ ศพก.และเครือข่าย โดยจะมีการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) และการประกวด ศพก. ดีเด่น
4) การบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยให้มีการประชุมคณะทำงานและคณะกรรมการเครือข่าย ศพก. การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ศพก. และการประชุมคณะกรรมการเครื่อข่าย ศพก. และแปลงใหญ่ ทุกระดับ (ประเทศ เขต จังหวัด และอำเภอ) อีกทั้งยังต้องพัฒนาประธาน ศพก. เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ผู้ประกอบการด้านเกษตร และส่งเสริมการพัฒนาแปลงต้นแบบ ศพก. ด้านเศรษฐกิจพอเพียง และ 5) ติดตามและรายงานผล นอกจากนี้ ยังมีแนวทางในการจัดตั้งกองทุน ศพก. และจัดตั้ง ศพก. เป็นสถานอบรมอาชีพแก่เกษตรกรด้วย
สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนแปลงใหญ่ของคณะกรรมการเครื่อข่ายแปลงใหญ่ระดับประเทศปี 2566 – 2569 ได้แก่ 1) การพัฒนาแปลงใหญ่ให้มีความมั่นคงยั่งยืน 2) ต้องมีตลาดกลางหรือตลาดซื้อขายล่วงหน้าสำหรับจำหน่ายสินค้าแปลงใหญ่ 3) แปลงใหญ่ต้องผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานปลอดภัยและตรงตามความต้องการของตลาด 4) พัฒนาแปลงใหญ่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร 5) ต้องมีการวางแผนการผลิตและมีข้อมูลการผลิตในแต่ละปี 6) มีการทำงานแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐภาค ภาคเอกชน และเกษตรกร 7) มีการเชื่อมโยง ศพก. และแปลงใหญ่กับ Young Smart Farmer (YSF) เพื่อให้เกิดทายาทภาคการเกษตร และ 8) ต่อยอดยกระดับแปลงใหญ่
“ขอขอบคุณคณะกรรมการทั้ง 2 กลุ่ม ที่เสียสละเวลามาร่วมพูดคุย และมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อน ศพก. และแปลงใหญ่ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยข้อเสนอทุกข้อจะขอรับไว้ เพราะเป็นแนวทางที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในยุคนี้จะต้องปรับเปลี่ยนการทำงาน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร มุ่งเน้นการพัฒนาคนและสร้างพื้นฐานให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง โดยจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด จะนำไปสู่การลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต และการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งหากจะทำให้ประเทศเข้มแข็งได้ ต้องทำให้คนส่วนใหญ่ในประเทศเข้มแข็งก่อน ซึ่งก็คือเกษตรกร จึงขอให้ความมั่นใจว่าเกษตรกรจะต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน” ดร.เฉลิมชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการเกษตรแปลงใหญ่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ใกล้เคียงมีการรวมตัวกัน เพื่อร่วมกันผลิตสินค้าเกษตร ร่วมกันบริหารจัดการ รวมถึงร่วมกันจำหน่าย ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เชื่อมโยงตลาดได้มากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรสู่ Smart Farmer โดยมีหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน