แยมมะนาวผสมน้ำผึ้งสเปรดที่ทานคู่กับขนมปัง แครกเกอร์ หรือผสมน้ำอุ่นทำเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นดับกระหาย เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน ด้วยการแปรรูปผลผลิตมะนาวไร้เมล็ด สายพันธุ์ตาฮิติ ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกมะนาวบ้านยอด ต.ยอด อ.สองแคว จ.น่าน ที่พัฒนาคุณภาพของมะนาวจนได้มาตรฐานเกษตรปลอดภัย มีเครื่องหมาย GAP เป็นหลักประกันว่า มะนาวไร้เมล็ดของบ้านยอด นอกจากจะผลโต เปลือกบาง มีกลิ่นหอม และน้ำจากผลที่มีปริมาณมากแล้ว ยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอด สร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน เพิ่มทางเลือกให้กับตลาดได้อีกด้วย
โดยการผลิต “แยมมะนาวผสมน้ำผึ้งสเปรด Ban Yod บ้านยอด” จะใช้เฉพาะส่วนที่เป็นเกล็ดมะนาว นำมาผสมกับน้ำผึ้งแท้ ในกรรมวิธีที่สะอาด ปลอดภัย ไร้สารกันบูด 100% บรรจุขวดขนาด 240 กรัม จำหน่ายในราคาขวดละ 85 บาท ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกมะนาวบ้านยอด ได้รับการสนับสนุนงบประมาณและองค์ความรู้จาก สำนักวิจัยและพัฒนา (สวพ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน ในโครงการวิจัย “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมในเขตพื้นที่สูง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของประชาชน จังหวัดน่าน” ที่นอกจากจะสามารถช่วยแก้ปัญหาผลผลิตมะนาวล้นตลาดในช่วงฤดูฝนได้แล้ว ยังสามารถเพิ่มมูลค่าของมะนาวในช่วงที่ราคาตกต่ำได้เป็นอย่างดี
อนึ่ง ชุมชนบ้านยอด ต.สองแคว จ.น่าน มีจุดเด่นเรื่องการปลูกมะนาวไร้เมล็ด สายพันธุ์ตาฮิติ มีการจัดตั้งกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกมะนาวบ้านยอด ปัจจุบันมีสมาชิกรวม 143 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกมะนาว 600 ไร่ มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาท เคยได้รับรางวัลวิสาหกิจชุมชนดีเด่น รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ระดับประเทศ ปี 2562 เป็นหนึ่งในกลุ่มเกษตรกรที่ทางสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เข้าร่วมเป็นพี่เลี้ยงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุนและให้ความรู้ด้านการเกษตรและการตลาดแบบครบวงจร เพื่อปรับปรุงการดูแลบำรุงรักษาต้นมะนาว ลดผลผลิตมะนาวตกเกรดให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มะนาวตาฮิติ เป็นมะนาวที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับส้มจี๊ด แต่ลักษณะของต้นและผลจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเชื่อกันว่าเป็นสายพันธุ์มะนาวที่มีถิ่นกำเนิดจากเกาะตาฮิติ รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่บางข้อมูลกล่าวว่าถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของมะนาวตาฮิตินั้นอยู่ที่หมู่เกาะโซไซติ แถบมหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศเฟรนซ์พอลินีเซีย จากนั้นได้กระจายพันธุ์ปลูกไปในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแพร่หลาย รวมทั้งเกาะตาฮิติด้วย เนื่องจากมะนาวตาฮิติเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ติดผลดก ให้น้ำเยอะ มีรสเปรี้ยว อีกทั้งเปลือกผลก็ยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวอีกด้วย ทำให้สามารถขูดหรือหั่นฝอยปรุงอาหารได้อย่างหลากหลาย
ในประเทศไทยมีการนำเข้ามาปลูกนานหลายปีแล้วในชื่อ “มะนาวตาฮิติ” ซึ่งนำเข้ามาโดยกรมวิชาการเกษตร ในช่วงแรกได้ทำการศึกษาและลองปลูกขยายพันธุ์พบว่ามะนาวพันธุ์นี้สามารถเติบโตได้ดีในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งเป็นมะนาวสายพันธุ์ที่มีผลใหญ่มาก ไร้เมล็ด ปลูกง่าย โตเร็ว ออกผลตลอดปี ทนต่อโรคและแมลง แต่มีเปลือกหนา คนไทยจะไม่ค่อยนิยมกันนัก ส่วนใหญ่จะนิยมส่งออกไปต่างประเทศมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามมะนาวพันธุ์นี้ก็ถือว่าเป็นมะนาวที่มีน้ำหนักมากกว่ามะนาวชนิดอื่น จึงทำให้มะนาวพันธุ์นี้ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย และเชื่อว่าถ้าใครปลูกไว้ขายก็จะยิ่งช่วยให้มีรายได้มากขึ้น เพราะมะนาวพันธุ์นี้ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี
ลักษณะมะนาวตาฮิติ
ลำต้น มะนาวตาฮิติจัดเป็นไม้พุ่ม โดยมีความสูง 1.5-3 เมตร กิ่งก้านมีหนามแหลม ซึ่งกิ่งก้านนั้นมักจะโค้งงอลงและยาวเกือบทอดเลื้อยไปตามหน้าดิน
ใบ ใบของมะนาวตาฮิติเป็นใบประกอบชนิดลดรูปที่มีใบย่อยใบเดียว ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่กว้าง ส่วนปลายและโคนใบจะแหลม ผิวใบเรียบ มีสีเขียวสดเป็นมัน
ดอก ดอกของมะนาวตาฮิติจะออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ ตามซอกใบและปลายกิ่ง มีกลีบเลี้ยงเป็นรูปถ้วย ซึ่งปลายจะแยกเป็น 5 แฉก มีกลีบดอกอยู่ 5 กลีบ มีลักษณะเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน ซึ่งมักจะร่วงง่าย กลีบดอกมีสีขาว กลิ่นหอมเย็นเหมือนกับดอกมะนาวและดอกส้มทั่วไป และมีเกสรเพศผู้จำนวนมาก
ผล ผลของมะนาวตาฮิติจะมีลักษณะเป็นรูปกลมรีคล้ายรูปหยดน้ำ ปลายผลกว้าง หัวผลเรียว ไม่มีเมล็ด เมื่อผลโตเต็มที่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 3-4 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม เปลือกผลบางเหมือนกับเปลือกผลส้มจี๊ด หรือเปลือกผลมะนาวทั่วไป ผลอ่อนจะมีเปลือกสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง ซึ่งผลจะให้น้ำเยอะพอสมควร รสเปรี้ยวจัด สามารถปรุงอาหารได้เหมือนกับมะนาวทั่วไปทุกอย่าง แต่ไม่มีกลิ่นหอมเหมือนกับมะนาวน้ำหอมทั่วไป ผิวของเปลือกผลจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยจะนิยมคั้นเอาน้ำมาทำเป็นน้ำมะนาวปั่น หรือบีบเอาน้ำราดปลาที่นึ่งเสร็จใหม่ ๆ จะได้รสชาติที่อร่อยมากกว่าเดิม