ที่สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.มหาสารคาม จำกัด (ศูนย์ธุรกิจ สกต.บ้านท่าสองคอน ) อ.เมืองมหาสารคาม ดร.สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดโครงการมหกรรมตลาดนัดข้าวเปลือกและการเสวนาปัญหาข้าวชาวนาสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อความยั่งยืน โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผวจ.มหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกร เข้าร่วมงาน
นายวิบูรณ์ฯ ผวจ.มหาสารคาม กล่าวว่า จ.มหาสารคาม มีพื้นที่การเกษตร จำนวน 2,475,112 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 74.82 ของพื้นที่ทั้งหมด แบ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 2,126,180 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 64.30 และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (GPP) จำนวน 66,024 ล้านบาท เป็นลำดับที่ 10 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและลำดับที่ 44 ของประเทศ ซึ่งเศรษฐกิจของ จ.มหาสารคาม ขึ้นอยู่กับภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก มีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน ในส่วนของข้าวนิยมปลูกข้าวหอมมะลิ มีพื้นที่เพาะปลูก 1,253,149 ไร่ ผลผลิต 439,176 ตันต่อปี ที่ผ่านมามีการจัดสรรงบประมาณและโครงการพัฒนายกระดับมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์อย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด “เกษตรกรรมยั่งยืน นำภูมิปัญญาสร้างคุณค่า พัฒนาการค้าการลงทุน สู่สังคมมีสุขภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี”
การจัดงานครั้งนี้สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.มหาสารคาม จำกัด ร่วมกับ จ.มหาสารคาม จัดขึ้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้รับความรู้ แก้ไขปัญหาด้านการผลิตข้าวที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการใช้เมล็ดพันธุ์ การใช้พันธุ์ข้าวที่ดี รวมถึงจัดหาตลาดจำหน่ายผลผลิตช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ จ.มหาสาคาม โดยมีการจัดบูธแสดงผลิตภัณฑ์ข้าวของสหกรณ์ ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และการเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ปัญหาข้าวชาวนาสู่การแก้ปัญหาเพื่อความยั่งยืน
ดร.สุทินฯ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และตามแผนแม่บท ด้านการเกษตร ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับการผลิตให้เข้าสู่คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย การพัฒนาสินค้าเกษตรและการแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าให้กับสินค้าเกษตร
นอกจากนี้ตาม แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13(พ.ศ.2566-2570 ) มีหมุดหมายกำหนดให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง รัฐบาลจึงมีแนวทางในการสร้างรายได้ภาคเกษตร โดยใช้หลักการ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ด้วยการสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพภาคการเกษตร และบูรณาการองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยนวัตกรรมเกษตรแม่นยำ การวิจัยพัฒนาพันธุ์พื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่าสินค้า ตลอดจนการหาตลาดให้สินค้าเกษตรได้ขายในราคาที่เหมาะสม สนับสนุนให้มีการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้จะช่วยประชาสัมพันธ์ผลผลิตข้าวที่มีคุณภาพของ จ.มหาสารคาม ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าข้าวของเกษตรกรกับผู้ประกอบการให้มีความหลากหลาย รวมทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวให้มีคุณภาพและมาตรฐานให้แก่เกษตรกรชาว จ.มหาสารคาม ต่อไป