ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ 2 มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/67 ประกอบด้วย 1) สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี มีเป้าหมาย 3 ล้านตัน วงเงินรวม 44,557.71 ล้านบาท เป็นวงเงินสินเชื่อ 34,437 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 10,120.71 ล้านบาท ช่วยค่าฝาก 1,500 บาทต่อตัน (สหกรณ์รับ 1,000 บาท ต่อตัน เกษตรกรรับ 500 บาท ต่อตัน) ให้เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง 1-5 เดือน เริ่ม 1 ตุลาคม 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ในราคาข้าวหอมมะลิ ตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,500 บาท ข้าวหอมมะลิปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 9,000 บาท ข้าวเหนียว ตันละ 10,000 บาท
และ 2) สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2566/67 มีเป้าหมาย 1 ล้านตัน เป็นวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 481.25 ล้านบาท สหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 1% รัฐช่วยดอกเบี้ย 3.85% ระยะเวลา 15 เดือน เริ่ม 1 ตุลาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2567 ซึ่งทั้ง 2 โครงการดำเนินการทันทีหลัง คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ
นอกจากนี้ ยังเตรียมชงมาตรการพักหนี้ให้เกษตรกร โดยเสนอขอชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ร้อยละ 4.5 เป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2569 คาดว่าจะใช้งบประมาณ 4,296 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง
“กระทรวงเกษตรฯ เล็งเห็นความเดือดร้อนของเกษตรกรทุกกลุ่ม โดยเฉพาะชาวนาที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับราคาข้าวมาอย่างยาวนาน ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะสามารถรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกดังกล่าว อีกทั้งจะช่วยยกระดับและการสร้างความเข้มแข็งทั้งด้านการเงิน และความยั่งยืนในการประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกรและระบบสหกรณ์” รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าว