นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการประชุมหารือสมาคมชาวนาและเกษตรไทย โดยมี นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว นำข้าราชการผู้บริหารระดับสูง เจ้าหน้าที่กรมการข้าว เข้าร่วมประชุมสรุปแนวทาง 4 มาตรการ ดูแลและช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวภายในประเทศ ณ กระทรวงพาณิชย์
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยว่าภาครัฐ นำโดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปี 66/67 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากได้มีการหารือร่วมกับเกษตรกร สมาคมโรงสี และผู้ส่งออก โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 4 มาตรการ ใช้วงเงินรวม 69,043 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้ดูแลผลผลิตข้าวที่กำลังจะออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน พ.ย.66 เป็นต้นไป
โดยจากนี้จะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาในวันที่ 1 พ.ย.66 สำหรับแหล่งเงินที่ใช้จัดทำมาตรการ ได้หารือกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แล้ว ถึงการนำเงินมาตรา 28 ตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2562 มาใช้ ซึ่งได้รับการยืนยันจากกระทรวงการคลังว่าใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไร โดย 4 มาตรการ ประกอบด้วย
1.สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เป้าหมาย 3 ล้านตัน วงเงินกว่า 10,000 ล้านบาท โดยช่วยค่าฝาก 1,500 บาทต่อตัน ในกรณีเข้าร่วมกับสหกรณ์ สหกรณ์รับ 1,000 บาทต่อตัน เกษตรกรรับ 500 บาทต่อตัน เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง 1–5 เดือน เริ่ม 1 ต.ค.66-29 ก.พ.67
“เกษตรกรสามารถนำข้าวไปขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยข้าวหอมมะลิตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,500 ล้านบาท ข้าวหอมปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 9,000 บาท และข้าวเหนียว ตันละ 10,000 บาท หากข้าวราคาขึ้น เกษตรกรสามารถไปไถ่ถอนออกมา เพื่อนำมาจำหน่ายได้”
2.สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร เป้าหมาย 1 ล้านตัน วงเงิน 481 ล้านบาท โดยสหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 1% รัฐช่วยดอกเบี้ย 3.85% ระยะเวลา 15 เดือน ระยะเวลาการจ่ายสินเชื่อ 1 ต.ค.66-30 ก.ย.67
3.ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการเก็บสต๊อก เป้าหมาย 10 ล้านตัน วงเงิน 2,120 ล้านบาท โดยรัฐช่วยดอกเบี้ย 4% เก็บสต๊อก 2–6 เดือน ระยะเวลารับซื้อ 1 พ.ย.66-31 มี.ค.67
4.การสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.68 ล้านครัวเรือน ช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละ 20,000 บาท วงเงิน 56,321 ล้านบาท
“ทั้ง 4 มาตรการนี้ ถือเป็นมาตรการเร่งด่วน ที่จะนำมาใช้ในการดูแลราคาข้าว เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายจำนำข้าว และประกันรายได้ โดยมั่นใจว่าจะสามารถดูแลราคาข้าวเปลือกให้กับเกษตรกรได้ และวงเงินที่นำมาใช้รวมกว่า 69,000 ล้านบาท ไม่มีปัญหาเรื่องเพดานหนี้ เพราะได้คุยกับกระทรวงการคลังแล้ว สามารถดำเนินการได้”