พาณิชย์ ปิดจ๊อบผลไม้ปี 66 ดันปีทองทุเรียน มังคุด เงาะ มะม่วง สับปะรด ส้มโอ ลำไย

กรมการค้าภายในประเมินผลมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 66 ประสบความสำเร็จตามเป้า ดันเป็นปีทองผลไม้ ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงมัน สับปะรดภูแล ส้มโอทองดี และลำไย ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีทุกรายการ ส่วนปี 67 ได้เตรียมมาตรการรับมือตามนโยบาย “ภูมิธรรม” ไว้ล่วงหน้าแล้ว รอเสนอให้พิจารณา ล่าสุดพร้อมเข้าช่วยเหลือส้มภาคเหนือ ประสานปั๊มน้ำมันซื้อแจกคนเติมน้ำมัน และประสานผู้ประกอบการซื้อมะยิงชิดแปรรูปเป็นแยม ซอส
         

65360710d3b02
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ประเมินผลการดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566 ภายหลังผลผลิตผลไม้หลายชนิดได้จบฤดูกาลไปแล้ว พบว่า ปีนี้ต้องเรียกว่าเป็นปีทองของผลไม้เกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด เงาะ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงมัน สับปะรดภูแล ส้มโอทองดี และลำไย โดยราคาอยู่ในเกณฑ์ดีทุกรายการ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลไม้ เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และส่วนหนึ่งมาจากมาตรการบริหารจัดการของกรมที่ได้เข้าไปกำกับดูแล ทำให้ป้องกันปัญหาการกดราคา และช่วยให้เกษตรกรมีที่จำหน่ายผลผลิต ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากและพร้อมกัน
         

โดยราคาทุเรียนภาคตะวันออก เกรด AB กิโลกรัม (กก.) ละ 166 บาท เพิ่มขึ้น 16% เกรด C กก.ละ 127 บาท เพิ่มขึ้น 37% เกรด D กก.ละ 104 บาท เพิ่มขึ้น 33% มังคุด เกรดมันรวม กก.ละ 100 บาท เพิ่มขึ้น 64% เกรกกากลาย กก.ละ 75 บาท เพิ่มขึ้น 50% เกรดคละ กก.ละ 71 บาท เพิ่มขึ้น 87% เงาะ เกรดโรงเรียน กก.ละ 38 บาท เพิ่มขึ้น 111% เกรดสีทอง กก.ละ 24 บาท คงเดิม
         

ส่วนผลไม้ภาคใต้ ทุเรียน เกรด AB กก.ละ 180-190 บาท เพิ่มขึ้น 59% เกรด C กก.ละ 120-130 บาท เพิ่มขึ้น 40% เกรด D กก.ละ 100-105 บาท เพิ่มขึ้น 60% มังคุด นอกกลุ่มประมูล เกรดมันรวม กก.ละ 97 บาท เพิ่มขึ้น 162% เกรดคละ กก.ละ 48 บาท เพิ่มขึ้น 92% ในกลุ่มประมูล เกรดมันใหญ่ กก.ละ 86 บาท มันเล็ก กก.ละ 54 บาท ลายใหญ่ กก.ละ 47 บาท และตกไซส์และดอกดำ กก.ละ 28 บาท เงาะ เกรดโรงเรียน กก.ละ 29 บาท เพิ่มขึ้น 12% เกรดสีทอง กก.ละ 24 บาท เพิ่มขึ้น 50%
         

ผลไม้ภาคเหนือ มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรดส่งออก กก.ละ 50 บาท เพิ่มขึ้น 11% เกรดคละ กก.ละ 30 บาท เพิ่มขึ้น 50% มะม่วงมัน คละ กก.ละ 10 บาท เพิ่มขึ้น 67% มะม่วงเขียวมรกต เบอร์ 1-2 กก.ละ 19.11 บาท เพิ่มขึ้น 74% เกรดคละ กก.ละ 11.88 บาท เพิ่มขึ้น 116% สับปะรดภูแล คละ กก.ละ 8.98 บาท เพิ่มขึ้น 100% ส้มโอทองดี เกรดสวยติดขั้ว-ใบ กก.ละ 13.75 บาท เพิ่มขึ้น 25% เกรดคละ กก.ละ 11.07 บาท เพิ่มขึ้น 30% ลำไย ช่อส่งออก AA กก.ละ 35.74 บาท เพิ่มขึ้น 23% ช่อส่งออก A กก.ละ 33.09 บาท เพิ่มขึ้น 38% รูดร่วง AA กก. ละ 27.52 บาท เพิ่มขึ้น 129% รูดร่วง A กก.ละ 17.39 บาท เพิ่มขึ้น 248% รูดร่วม B กก.ละ 8.13 บาท เพิ่มขึ้น 307%

ทั้งนี้ ผลผลิตผลไม้ในปีนี้ ยังคงเหลือลองกอง ที่กำลังออกสู่ตลาด และใกล้จะจบฤดูกาลแล้ว โดยสถานการณ์ราคาต่ำกว่าปีที่แล้ว เพราะปีนี้ผลผลิตออกมามาก แต่ก็เป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ โดยลองกอง ภาคใต้ ผลผลิตออกแล้ว 99% เบอร์ 1 ราคา 27-30 บาท/กก. เบอร์ 3 ราคา 13-15 บาท/กก. ภาคเหนือ ผลผลิตออกแล้ว 81% คงเหลือลองกองในพื้นที่ภูเขา ซึ่งผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ดี มีคุณภาพ แต่ก็มีตกไซส์ ลูกดำบ้าง โดยเบอร์ 1 ราคา 23-35 บาท/กก. เบอร์ 3 ราคา 16-18 บาท/กก. โดยผลผลิตที่เหลือ ได้ประสานห้างท้องถิ่นซื้อไปจำหน่าย และนำมาจำหน่ายผ่านโมบายพาณิชย์ คาดว่าไม่เกินสัปดาห์นี้ ผลผลิตก็จะจบฤดูกาล
         

นายกรนิจ กล่าวว่า สำหรับมาตรการดูแลผลไม้ปี 2567 ขณะนี้ กรมได้เตรียมมาตรการรับมือไว้ล่วงหน้าตามนโยบายที่ได้รับจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้ว ซึ่งมีมาตรการทั้งด้านการผลิต ด้านการตลาดในประเทศ ด้านการตลาดต่างประเทศ และด้านกฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลผลผลิตผลไม้ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้าแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอเพื่อพิจารณา
         

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผลผลิตส้มภาคเหนือ ในแหล่งเพาะปลูก จ.สุโขทัย แพร่ และน่าน กำลังจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.2566 กรมได้เตรียมประสานสถานีบริการน้ำมัน ได้แก่ พีที บางจาก พีทีทีสเตชัน ให้เข้ามาช่วยรับซื้อ และนำไปเป็นของสมนาคุณให้กับผู้เติมน้ำมัน รวมทั้งมีแผนสอง หากช่วงที่ผลผลิตออกมาก จะประสานผู้ประกอบการรายอื่น ๆ เข้าไปรับซื้อ และนำระบายผ่านห้างท้องถิ่นจำนวน 600 สาขาทั่วประเทศ และโมบายพาณิชย์ 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
         

สำหรับมะยงชิด ที่จะออกสู่ตลาดตัวต่อไป ประมาณต้นปี 2567 กรมได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้วเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าผลผลิตในช่วงต้นฤดู น่าจะยังคงมีราคาสูงไม่ต่ำกว่า 180-200 บาท/กิโลกรัม (กก.) แต่ผลผลิตตกเกรด หรือช่วงปลายฤดู ราคาอาจจะลดลง ซึ่งจะเข้าไปดูแลในส่วนนี้ ได้มีการประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ เพื่อนำไปแปรรูปเป็นแยมมะยงชิด หรือซอสมะยงชิด เป็นต้น