“ภูมิธรรม”เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด เห็นชอบมาตรการช่วยค่าบริหารจัดการ เพื่อระบายสต๊อกน้ำมันปาล์มส่วนเกิน กิโลกรัมละ 2 บาท เป้าหมาย 2 แสนตัน ภายใต้เงื่อนไข สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบต้องสูงกว่า 3 แสนตัน และดูราคาตลาดโลกประกอบ เตรียมของบประมาณสนับสนุน 412 ล้านบาทจากงบกลาง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ครั้งที่ 2/2566 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบดำเนินมาตรการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ปี 2566-67 โดยช่วยเหลือค่าบริหารจัดการ เพื่อระบายสต๊อกส่วนเกิน กิโลกรัมละ 2 บาท ปริมาณเป้าหมาย 0.2 ล้านตัน โดยให้ขอรับจัดสรรงบประมาณวงเงิน 412 ล้านบาท จากงบกลาง เพราะการส่งออกยังมีอุปสรรคจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน และราคาเสียเปรียบคู่แข่งอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย จึงต้องเตรียมมาตรการดูดซับสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่จะปรับสูงขึ้นในระยะต่อไป
“มาตรการดังกล่าวนี้ จะเป็นกลไกรับมือปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ภายใต้เงื่อนไขระดับสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า 300,000 ตัน และต้องพิจารณาสถานการณ์ราคาในตลาดโลกประกอบด้วย เพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะไม่ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนภายในประเทศ แต่จะช่วยป้องกันและบรรเทาสถานการณ์น้ำมันปาล์มและปาล์มน้ำมันล้นตลาด พยุงราคาไม่ให้ผันผวนจนกระทบรายได้เกษตรกร รวมทั้งสร้างแรงจูงใจผู้ประกอบการระบายผลผลิตส่วนเกินออกนอกประเทศ ทั้งนี้ เมื่อดูแนวโน้มแล้ว สต๊อกในประเทศอาจเพิ่มขึ้นอีก อาจพิจารณาปรับเกณฑ์สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศให้อยู่ที่ 250,000-300,000 ตัน แต่ยังต้องพิจารณาราคาตลาดโลกประกอบด้วยเช่นเดิม”
นายภูมิธรรมกล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการทำปาล์มคุณภาพ โดยเร่งเดินหน้าผลักดันมาตรการกำหนดให้ลานเทต้องไม่มีตะแกรงหรืออุปกรณ์ในการแยกลูกร่วง โดยต่อไป หากไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ ก็จะไม่มีการแยกลูกร่วง ลูกร่วงที่นำไปจำหน่ายก็จะเป็นลูกร่วงที่หลุดตามธรรมชาติ จะให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ดี ซึ่งจะทำให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มทั้งระบบของประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับทุกส่วนราชการ ภาคเอกชน รวมทั้งพี่น้องเกษตรกร เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ในการประชุมยังได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเร่งดำเนินการจัดทำรายละเอียดมาตรการเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ต่อไป พร้อมทั้งขอให้ทุกฝ่ายบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามทั้งสถานการณ์การผลิต การส่งออก และการบริโภคในประเทศที่จะต้องมีความสมดุลทุกภาคส่วน รวมทั้งประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าเพื่อวางแผนรองรับได้อย่างทันท่วงที
ปัจจุบันพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั่วทุกภาคของไทย ทำให้ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มออกสู่ตลาดสม่ำเสมอทุกเดือน ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มโดยรวม ทั้งด้านการบริโภค อุตสาหกรรมและด้านพลังงาน อยู่ในระดับทรงตัว
