ภายหลังนายหาน จื้อเฉียง (H.E. Mr.Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และคณะผู้บริหารระดับสูง ฝ่ายการเกษตรและการพาณิชย์ ลงพื้นที่ดูกระบวนการทำงานการรวบรวมผลผลิตทุเรียน ภายใต้มาตรการ Zero Covid เพื่อรักษาคุณภาพของผลผลิตให้ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ของสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคอย่างมาก เนื่องจากประเทศจีนเป็นตลาดหลักในการรองรับผลไม้ชนิดดังกล่าว
“เป็นครั้งแรกที่ท่านทูตจีนและคณะมาเยี่ยมชมกิจการของสหกรณ์ฯเรา ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ท่านให้ความสำคัญกับสหกรณ์เล็กๆ อย่างเขาคิชฌกูฎ วันนั้นท่านก็ยังได้มอบของที่ระลึกเป็นทีวีจอใหญ่ให้กับทางสหกรณ์เราด้วย”นายมนัส พลคิด ประธานสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัดเผยความรู้สึก ภายหลัง นายหาน จื้อเฉียง (H.E. Mr.Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยและคณะเดินทางมาเยี่ยมชมกิจการของสหกรณ์ฯ ในฐานะประเทศคู่ค้าหลักมาตั้งแต่ปี 2545 จวบจนปัจจุบัน
โดยสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด ให้ความสำคัญกับการสง่เสริมให้สมาชิกวางแผนการผลิตควบคู่กับวางแผนการตลาดโดยการส่งเสริมให้มีกลุ่มผู้ผลิตสินค้าคุณภาพ ได้แก่ กลุ่มทุเรียน กลุ่มมังคุดกลุ่มเงาะ ซึ่งที่ผ่านมา สหกรณ์ฯ มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจ รวบรวมผลผลิต โดยสามารถรวบรวมผลผลิตทุเรียน มังคุด จากสมาชิก ได้เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัน มีมูลค่ากว่า 239 ล้านบาทเพื่อจำหน่ายไปยังบริษัทส่งออก โดยในฤดูกาลผลิต ปี 2565 สหกรณ์ฯ มีการรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกจำนวน 4,510 ตัน แบ่งเป็น มังคุด จำนวน 3,800 ตัน เงาะ จำนวน 10 ตัน และทุเรียน 700 ตัน
ทั้งนี้สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้ง เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2537 ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 1,322 ราย เป็นสมาชิกสามัญ 1,125 ราย และสมาชิกสมทบ 197 ราย
สหกรณ์ฯ มีการดำเนินธุรกิจ 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายและธุรกิจรวบรวมผลผลิต ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่สหกรณ์เฉลี่ยปีละ 300 ล้านบาท สหกรณ์ฯมีทุนดำเนินงาน73 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 4.04 ล้านบาท โดยสหกรณ์ฯ ผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐานสหกรณ์อยู่ในระดับดีเลิศ มีประสิทธิภาพในการบริหารงาน และจัดการองค์กร ซึ่งผลการประเมินชั้นคุณภาพของการควบคุมภายในอยู่ในระดับดีมาก
ขณะที่ นายสุริยัน ทองธรรมชาติ สหกรณ์จังหวัด(สกจ.)จันทบุรี กล่าวว่า เขาคิชฌกูฎ เป็นสหกรณ์การเกษตรแห่งเดียวของจังหวัดจันทบุรี ที่ผลผลิตทั้งหมดส่งออกไปยังประเทศจีน โดยผ่านทางบริษัทส่งออก เนื่องจากมีความพร้อมในกระบวนการผลิตทุกห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่แปลงปลูก การรวบรวมผลผลิตไปจนถึงการบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์เพื่อส่งออกไปยังประเทศปลายทางจะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานจีเอพีพลัส(GAP Plus) และจีเอ็มพี พลัส(GMP Plus) อาทิ การสวมหมวก ใส่ถุงมือปิดหน้า ใส่หน้ากากอนามัยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตั้งแต่ภายในอาคารสถานที่การรวบรวมลผผลิต จนถึงการขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ทั้งภายในและภายนอกรถ
“จุดประสงค์ที่ท่านทูตจีนลงไปจันทบุรีก็ไปดูในบริบทการส่งออกผลไม้ เพราะช่วงที่ผ่านมาเราเจอด่านปิดบ้าง ติดโควิด-19 บ้าง ท่านก็เลยลงมาดูใน 3 จุดด้วยกัน จุด แรกแปลงปลูกทุเรียน เกษตรกรเขามีมาตรฐานขนาดไหน การตัดทุเรียน ตัดแก่ตัดอ่อน ใช้คนงานมีเครื่องป้องกันในเรื่องของโควิดหรือไม่อย่างไร จุดที่สองเป็นจุดรวบรวมผลผลิต 2 จุด คือของบริษัทเอกชนหรือล้งและของสหกรณ์ฯเขาคิชฌกูฎ เขารู้สึกประทับใจในการดำเนินงานของสหกรณ์ที่เข้มงวดในทุกขั้นตอน เป็นไปตามมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตร” สหกรณ์จังหวัด(สกจ.)จันทบุรีเผย
นอกจากนี้นายหาน จื้อเฉียง (H.E. Mr.Han Zhiqiang)ยังได้ให้ความสำคัญกับการเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯของเกษตรกรในพื้นที่ โดยเรียกร้องให้เกษตรกรมาเป็นสมาชิกสหกรณ์และทำงานร่วมกับสหกรณ์มากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ขณะที่กฎเกณฑ์ของสหกรณ์ว่าด้วยเรื่องสมาชิกก็มีข้อจำกัด เนื่องจากตามระเบียบแล้วผู้ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์จะต้องเข้ามาด้วยความสมัครใจเท่านั้น ขณะเดียวกันเกษตรกรจะต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์ได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
“ท่านแฮปปี้ ท่านคอมเม้นเรื่องเดียวถามมีเกษตรกรสมาชิกกี่คน เราตอบไปว่ามีประมาณ20%ของเกษตรกรในอำเภอเขาคิชฌกูฎ ท่านถามว่าทำไมน้อยจัง อยากให้เกษตรกรมาเป็นสมาชิกสหกรณ์เยอะๆ เราก็อธิบายไปว่าในกระบวนการของสหกรณ์นั้นทำด้วยความสมัครใจเป็นอันดับแรก ไม่สามารถไปบังคับเกษตรกรเข้ามาเป็นสมาชิกสหกรณ์ได้ เกษตรกรเขาเป็นคนเลือกว่าจะอยู่ที่ไหน บางคนเป็นลูกค้าธ.ก.ส. เป็นลูกค้าธนาคาร บางคนใช้เงินทุนตัวเอง ไม่อยากเข้าไปอยู่ในสังกัดองค์กรใด ๆ”
นายสุริยัน ระบุอีกว่า ปัญหาอีกประการของเขาคิชฌกูฎ เพราะไม่ใช่อำเภอดั้งเดิม แต่แยกออกมาจากอำเภอมะขาม ดังนั้นเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัดอยู่แล้ว จึงไม่อยากเปลี่ยนสังกัด เพราะสมาชิกสหกรณ์จะซ้ำซ้อนกันไม่ได้ในภูมิภาคเดียวกัน เพราะฉะนั้นสมาชิกสหกรณ์ฯเขาคิชฌกูฎส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นสหกรณ์แห่งเดียวของจังหวัดจันทบุรี ที่ส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน ส่วนผลผลิตของสหกรณ์ฯอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะส่งจำหน่ายตลาดภายในประเทศผ่านทางห้างโมเดิร์น เทรดและเครือข่ายสหกรณ์ด้วยกัน
“เหตุผลที่เขาคิชกูฎส่งออกจีนได้เพียงสหกรณ์เดียวเป็นเพราะว่าเขามีความพร้อมในทุก ๆ ด้านทั้งบุคลากร ฝ่ายจัดการดำเนินการ เครื่องอุปกรณ์การตลาด อาคารสถานที่ อย่างสหกรณ์อื่นส่วนใหญ่มีอาคารเดียว รวบรวมทั้งทุเรียน มังคุดและผลไม้ชนิดอื่น แต่เขาคิชฌกูฎ อาคารแรกคือมังคุด อาคารถัดไปเป็นทุเรียน ถัดไปเป็นห้องเย็น ถามว่าสหกรณ์อื่นมีศักยภาพทำได้หรือไม่ก็ต้องมาดูความพร้อม หนึ่งด้านกายภาพพื้นที่มีไม๊ สองความพร้อมเรื่องบุคลากร และสามเรื่องของคอนเน็คชั่น ระหว่างสหกรณ์ฯกับผู้ส่งออก ตรงนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสหกรณ์ตัดสินใจ เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงให้คำแนะนำเท่านั้น” สหกรณ์จังหวัด(สกจ.)จันทบุรีย้ำทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนของจังหวัดจันทบุรีในฤดูกาลผลิตปีนี้( 2565 ) มีประมาณ 7 แสนตัน ส่งไปจีนประมาณ 5 แสนตันผ่านเครือข่ายสหกรณ์และจุดรวบรวมของบริษัทเอกชนหรือล้ง เพื่อส่งต่อไปยังบริษัทผู้ส่งออก
ส่วนราคาหน้าสวนไม่ต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม เกษตรกรยังรับได้ เมื่อคำนวนจากต้นทุนอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม และช่วงนี้ย่างเข้าสู่ปลายฤดู คาดว่าผลผลิตทุเรียนในจันทบุรีจะเก็บเกี่ยวหมดประมาณสิ้นเดือนมิถุนายนนี้