วันที่ 14 มิถุนายน 2565 แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเน้นย้ำถึงประชาชนให้เข้าใจและ “ใช้กัญชาทางการแพทย์” อย่างถูกวิธี ได้ผลในการรักษาโรค โดยไม่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ไม่เสพติด ไม่เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคทางจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ มารดาที่ให้นมบุตร และกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชรุนแรง ไม่ควรใช้โดยเด็ดขาด
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่กฎหมาย “ปลดกัญชา” ออกจากการเป็นยาเสพติดมีผลบังคับใช้ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเจตนารมณ์ที่สำคัญเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ
ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตมีข้อแนะนำในการใช้กัญชาและกัญชง ขอให้ระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากบริโภคอย่างไม่เหมาะสม โดยแนะนำต้องไม่จำหน่ายแก่บุคคล 3 กลุ่ม ได้แก่ เด็กและเยาวชน สตรีมีครรภ์ มารดาที่ให้นมบุตร นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังการใช้ในผู้มีโรคเรื้อรังและผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มโรครุนแรง
เช่น จิตเภท ซึมเศร้า อารมณ์สองขั้ว เพื่อคุ้มครองไม่ให้กลุ่มเปราะบางเหล่านี้เกิดผลข้างเคียงจาก “การใช้กัญชาทางการแพทย์” โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่มีโอกาสเสพติดมากกว่าผู้ใหญ่ และยังส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของสมอง ระดับสติปัญญา การคิดแบบมีเหตุผลและการยับยั้งชั่งใจ ทั้งในขณะเสพและหลังเสพ จนเกิดอาการทางจิตเวชตามมาได้ ส่วนในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร สารสกัดจากกัญชาอาจส่งผลต่อเด็กในครรภ์หรือทารกได้
แพทย์หญิงบุญศิริ จันศิริมงคล ผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ฤทธิ์ของสารสกัดจาก “กัญชา” ที่มีต่อระบบประสาทสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่มอาการ
ได้แก่ 1) กดประสาท ผลเบื้องต้นทำให้รู้สึกสงบ สุขคนเดียวได้ ง่วง อยากนอน แต่ทำให้ไม่มีแรงจูงใจทำอะไร หากเสพเกินขนาดจะหลับลึก ไม่ค่อยรู้ตัว
2) กระตุ้นประสาท ผลเบื้องต้นทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย ไม่หิว ไม่เหนื่อย แต่ถ้าได้รับสาร THC มากขึ้นจะกระสับกระส่าย กลัว ตื่นตระหนก หากเสพเกินขนาดหัวใจจะเต้นเร็วมากขึ้นและอุณภูมิร่างกายสูงขึ้น
และ 3) หลอนประสาท ทำให้มีอาการเคลิ้มฝันกลางวัน วิตกกังวล กลัว ไม่อยากออกไปไหน หากเสพเกินขนาดจะทำให้เกิดอาการทางจิต เช่น ยิ้มพูดคนเดียว หูแว่ว หวาดระแวง
ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตได้เปิด สายด่วน “ปรึกษากัญ 1667” เพื่อให้คำปรึกษาในการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากกัญชาและกัญชงอย่างถูกต้อง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรมสุขภาพจิตเชิญชวนให้ประชาชนที่สนใจที่จะใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพจากกัญชาและกัญชง แต่ยังไม่มั่นใจหรือมีข้อมูลไม่เพียงพอ สามารถโทรขอรับการปรึกษาได้ฟรีหรือสามารถปรึกษาแพทย์ที่ดูแลรักษาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยและเกิดประสิทธิภาพในการรักษาอย่างแท้จริง