ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงรวบรวมและคัดบรรจุลำไยนิรันดร์ และพบปะเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ณ ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ว่า จากการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การผลิตของลำไยฤดูกาลผลิตปี 2566/67 ของสำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอพบว่า จังหวัดจันทบุรีมีพื้นที่ปลูกลำไย จำนวน 268,449 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต 267,189 ไร่ และคาดว่าจะมีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดในฤดูกาลนี้ ประมาณ 326,500 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 1,222 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งพื้นที่ปลูกมีกระจายอยู่ในทุกอำเภอของจังหวัดจันทบุรี พื้นที่ปลูกสูงที่สุด คือ อำเภอสอยดาว และอำเภอโป่งน้ำร้อน จำนวน 143,205 และ 119,583 ไร่ ตามลำดับ และผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 99.13 (ประมาณ 323,670 ตัน) อยู่ในทั้งสองอำเภอนี้เช่นกัน (อำเภอสอยดาว จำนวน 179,030 ตัน และอำเภอโป่งน้ำร้อน 144,640 ตัน) ขณะนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว ประมาณ 10,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 3.06 ส่วนราคารับซื้อผลผลิตฯ (แบบเหมาสวน) อยู่ที่ 30 – 40 บาท/กก. (ขึ้นอยู่กับคุณภาพผลผลิตลำไยของเกษตรกร) ส่วนเกษตรกรที่ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับบริษัท/โรงคัดบรรจุที่รับซื้อผลผลิต จะอยู่ที่ 30 – 32 บาท/กก.
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์การผลิตลำไย ฤดูกาลผลิตปี 2565/66 ที่ผ่านมาพบว่า พื้นที่ปลูก พื้นที่ให้ผล และผลผลิตต่อไร่ มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเกษตรกรในเขตชลประทานเริ่มมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกเดิม (ลำไย) ไปเป็นทุเรียน ส่วนเกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เริ่มมีการปรับเปลี่ยนพืชไปปลูกพืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง อีกทั้งราคาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี ยากำจัดศัตรูพืช และสารเคมีที่ใช้ในการผลิตลำไย โดยเฉพาะโพแทสเซียมคลอเรต มีการขยับราคาสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรลดขั้นตอนการเตรียมความพร้อมให้ต้นสมบูรณ์ (ทำใบเพียงแค่ 2 ชุด) จึงทำการกระตุ้นการออกดอกเลย และประกอบกับเกษตรกรในพื้นที่มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้น ในปี 2567 จึงมีเกษตรกรทำการพักต้นประมาณ 28,900 ไร่เศษ ซึ่งอาจส่งผลให้ผลผลิตของลำไยฤดูกาลผลิต 2566/67 มีปริมาณที่ลดลง
อย่างไรก็ตามส่วนราชการต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีได้บูรณาการการทำงานในด้านต่าง ๆ ทั้งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การผลิตลำไยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์การระบาดศัตรูพืชและการป้องกำจัด “เพลี้ยแป้งลำไย” เพื่อให้เกษตรกรทราบและสามารถนำไปปฏิบัติได้ กรมวิชาการเกษตรได้มีการจัดประชุมเตรียมความพร้อมก่อนการส่งออกลำไยภาคตะวันออกฤดูกาลผลิต 2566/67 เพื่อชี้แจงถึงนโยบายด้านการส่งออกลำไย การเตรียมความพร้อมโรงคัดบรรจุและเงื่อนไขการแจ้งตรวจศัตรูพืช (PC) ในลำไย สถานการณ์การค้าลำไยของไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน และร่วมรับฟังข้อคิดเห็นการเตรียมความพร้อมก่อนการส่งออกลำไยภาคตะวันออก ฤดูกาลผลิต ปี 2566/67
นอกจากนี้ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 32 จันทบุรี ร่วมกับสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย – กัมพูชา จันทบุรี และสมาคมชาวสวนลำไยจันทบุรี ร่วมกันดำเนินการจัดฝึกอบรม หลักสูตรการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรเพื่อการส่งออก ภายใต้โครงการสร้างทักษะแรงงาน/วิชาชีพ (กัมพูชา/สปป.ลาว/เมียนมาร์) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ร่วมกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสอยดาว จำกัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดฝึกอบรมหลักสูตรการตรวจสอบศัตรูพืชสำหรับสายเก็บและผู้ตรวจสอบคุณภาพผลผลิตประจำโรงคัดบรรจุลำไย ปี 2566
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้ติดตามโครงการจัดที่ดินทํากินแปลงเกษตรเกื้อกูลทับปะตีโมเดล หมู่ที่ 8 ตําบลโป่งน้ำร้อน อําเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี งบประมาณรวมทั้งสิ้น 18 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรและถนน