พาณิชย์ ลุยดันส่งออก “มังคุด” ไปญี่ปุ่น หลังไฟเขียวไม่ต้องอบไอน้ำ เริ่ม ส.ค.นี้

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ลุยทันที หลังญี่ปุ่นไฟเขียวไทยส่งออกมังคุดโดยไม่ต้องอบไอน้ำ คาดดีเดย์ ส.ค.นี้ สั่งทูตพาณิชย์เร่งผลักดันการส่งออก เพื่อขยายตลาดให้มังคุดไทยเพิ่ม ล่าสุดนำผู้ซื้อจากญี่ปุ่นลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ตกลงซื้อทันที 300 ตัน จากปกตินำเข้าแค่ปีละ 100 ตัน คาดพุ่งเป็นหลัก 1 พันตันในอนาคตอันใกล้
         

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังจะปรับปรุงมาตรการการนำเข้ามังคุด โดยลดหย่อนให้มังคุดจากประเทศไทย ไม่ต้องผ่านการกำจัดศัตรูพืชด้วยกระบวนการอบไอน้ำ(Vapor Heat Treatment)แล้ว ซึ่งทราบมาจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่ามาตรการดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของฝ่ายญี่ปุ่น และคาดว่าน่าจะเริ่มประกาศใช้ภายในเดือน ส.ค.2566 จึงได้สั่งการไปยังทูตพาณิชย์ให้เร่งผลักดันมังคุดเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ในทันที เพื่อขยายมูลค่าการส่งออกและช่วยสร้างราคาที่ดีให้แก่มังคุดของไทย และเพื่อขยายตลาดสำหรับผลไม้ไปยังตลาดใหม่ เพื่อลดการพึ่งพิงเฉพาะตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดนเดิมของมังคุด  
         

นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว กล่าวว่า ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีการนำเข้ามังคุดจากไทยสูงสุดเพียงปีละ 100 ตัน เป็นเพราะมังคุดที่จำหน่ายในตลาดญี่ปุ่น จะต้องผ่านกระบวนการอบไอน้ำก่อน ส่งผลให้มังคุดไทยที่วางขายมีราคาแพงตามต้นทุนที่สูงขึ้น และความร้อนยังทำให้มังคุดมีความอร่อยลดน้อยลงและผลดูไม่สวย ไม่น่าทาน การที่ญี่ปุ่นยอมลดหย่อนมาตรการในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเปิดประตูมังคุดไทยสู่ตลาดญี่ปุ่นครั้งสำคัญ เพราะต่อไปชาวญี่ปุ่นจะได้รับประทานมังคุดที่ทั้งอร่อยและมีราคาขายในญี่ปุ่นที่ไม่สูงมาก

64b607b5daba7
คณะนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเดินทางลงนครศรีฯชิมมังคุดไทยที่ไม่ได้ผ่านการอบไอน้ำ

“ได้ใช้โอกาสนี้ นำคณะนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นระดับ CEO ของบริษัทผู้นำเข้าผลไม้รายใหญ่ เช่น บริษัท Green Farm Co.,Ltd., บริษัท Bay commerce Co., Ltd และบริษัท Oisix ra daichi Inc เดินทางลงพื้นที่ไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ชิมว่ามังคุดของไทยที่ไม่ได้ผ่านการอบไอน้ำนั้น มีรสชาติอร่อยเพียงใด และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มผู้ซื้อว่าไทย เป็นแหล่งผลิตมังคุดที่มีระบบควบคุมคุณภาพที่ดี โดยนักธุรกิจญี่ปุ่นประทับใจในมังคุดของไทยเป็นอย่างมาก และสั่งออเดอร์เพื่อเข้าไปเปิดตลาดทันที 300 ตัน โดยหลังจากนี้ จะเร่งจัดกิจกรรมโปรโมตมังคุด เพื่อเพิ่มยอดขายในตลาดญี่ปุ่นโดยทันที และมั่นใจว่าจะนำไปสู่การขยายการส่งออกมังคุดเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกเป็นหลักพันตันในอนาคตอันใกล้ได้อย่างแน่นอน”นายฉันทพันธ์กล่าว

นางประไพ เพชรพงศ์พันธุ์ พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า มังคุดถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนอกจากจังหวัดจะเป็นแหล่งผลิตมังคุดจำนวนมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของไทยแล้ว ด้วยพื้นที่ปลูกที่ติดกับเทือกเขา ซึ่งเหมาะสมกับการเพาะปลูกมังคุดอย่างยิ่ง ทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพสูง และมีรสชาติดี โดยหลังจากที่ได้รับการประสานมาจากทูตพาณิชย์ญี่ปุ่น สำนักงานฯ ได้ทำการคัดเลือกเกษตรกรที่มีความพร้อมในการส่งออก และผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะโดยปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) มาให้พบปะเจรจาการค้ากับผู้ซื้อชาวญี่ปุ่น และได้รับผลตอบรับที่ดี สามารถจำหน่ายได้ทันที และมั่นใจว่าจะขยายการส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น