นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากสถานการณ์ปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงและผันผวน กรมส่งเสริมการเกษตร จึงมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปรับปรุงความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้เหมาะสม ใช้ปุ๋ยแบบผสมผสาน (ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยชีวภาพ)และใช้พืชปุ๋ยสด มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้มีการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมสนับสนุนให้ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน(ศดปช.) เป็นต้นแบบและกลไกในการขยายผลการปรับประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการจัดการดินและปุ๋ยอย่างเหมาะสมสู่ชุมชน โดยเทคโนโลยีที่เกษตรกรสนใจใช้เพื่อแก้ปัญหาปุ๋ยแพง คือ การผลิตและใช้แหนแดง
แหนแดงเป็นเฟิร์นลอยน้ำชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็ก เปรียบเสมือนโรงงานผลิตปุ๋ยไนโตรเจนทางชีวภาพ เนื่องจากมีกระบวนการตรึงไนโตรเจนของสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่อาศัยอยู่ในโพรงใบของแหนแดง ทำให้แหนแดงมีประโยชน์ในด้านทดแทนหรือลดการใช้ปุ๋ยเคมีไนโตรเจน
กรมวิชาการเกษตรแนะนำให้เกษตรกรใช้แหนแดง สายพันธุ์อะซอลล่า ไมโครฟิลล่า (Azolla microphylla) มีลักษณะเด่นคือ มีขนาดใหญ่ ขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว กรมส่งเสริมการเกษตรจึงจัดทำข้อเสนอโครงการขยายผลการผลิตและใช้แหนแดงเพื่อลดต้นทุนการผลิตสู่เกษตรกร
โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร หรือ สวก. ประเภท RU : Research Utilization หรือด้านการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจสามารถผลิตและใช้แหนแดงเพื่อลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการใช้แหนแดงจะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน เพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ปรับปรุงโครงสร้างดินดีขึ้นในระยะยาว เป็นการช่วยดูแลฟื้นฟูทรัพยากรดิน สอดคล้องกับนโยบาย BCG ของรัฐบาล
ดังนั้นเพื่อให้นโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการผลิตและใช้แหนแดง ผ่านโครงการขยายผลการผลิตและใช้แหนแดงเพื่อลดต้นทุนการผลิตสู่เกษตรกร บรรลุผลสำเร็จ กรมส่งเสริมการเกษตร จึงเปิดตัวโครงการฯ เพื่อรับมอบเทคโนโลยี องค์ความรู้ การผลิตและใช้แหนแดงจากกรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งต่อและใช้ขยายผลสู่เกษตรกรทั่วประเทศให้ได้รับประโยชน์จากการผลิตและใช้แหนแดงในด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และด้านอื่น ๆ ต่อไป
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า จากการสำรวจข้อมูลการผลิตและใช้แหนแดงผ่านสำนักงานเกษตรจังหวัด พบว่า มีการส่งเสริมการผลิตและใช้แหนแดงในพื้นที่ 743 อำเภอ ใน 73 จังหวัด โดย 96% ใช้ในนาข้าว อาหารสัตว์ ปุ๋ยพืชสด และใช้เป็นส่วนผสมของวัสดุปลูก ตามลำดับ ที่ผ่านมากรมส่งเสริมการเกษตร รับองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับแหนแดงโดยตรงจากนักวิจัยของกรมวิชาการเกษตร และขยายผลสู่เจ้าหน้าที่และเกษตรกร
นำร่องในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี สมุทรสงครา ระยอง กาฬสินธุ์ สุรินทร์ พังงา พัทลุง กำแพงเพชร และพะเยา ดำเนินการผ่านศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ที่ได้รับรางวัลดีเด่นในการประกวด ศดปช. ระดับเขต หรือระดับจังหวัด ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็น ศดปช. ที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการขยายผลสู่ชุมชน
“ตามบทบาทภารกิจกรมส่งเสริมการเกษตร จะหยิบยกเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ผ่านการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานวิจัยทั้งจากกรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว หรือกรมพัฒนาที่ดิน ไปถ่ายทอดสู่เกษตรกรอยู่แล้ว
โดยปีนี้โครงการที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สวก. มีจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการส่งเสริมและพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตถั่วลิสงพันธุ์เกษตรศาสตร์ สวก. 1 เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการขยายผลเทคโนโลยี การป้องกันกำจัดโรคเหี่ยวของกล้วยหิน (banana blood disease) ในพื้นที่จังหวัดยะลา และโครงการขยายผลการผลิตและใช้แหนแดงเพื่อลดต้นทุนการผลิตสู่เกษตรกร
ทั้ง 3 โครงการ มีนักวิจัยจากกรมวิชาการเกษตรร่วมเป็นที่ปรึกษาและเป็นนักวิจัย จึงเป็นความร่วมมือที่ทั้งสองกรมร่วมกันขับเคลื่อนงานหรือส่งต่องานวิจัยให้ถึงมือเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้งานวิจัยได้จริงๆ งานในวันนี้ จึงเป็นการเปิดตัวโครงการขยายผลการผลิตและใช้แหนแดงเพื่อลดต้นทุนการผลิตสู่เกษตรกร หรือ โครงการแหนแดง ส่วนอีก 2 โครงการ จะจัดงานลักษณะนี้ในพื้นที่”อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว