นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า อธิบดีกรมศุลกากรได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดในการตรวจสอบและจับกุมผู้ลักลอบนำสินค้าเกษตรเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อเป็นการรักษากลไกทางการตลาด และสนับสนุนเกษตรกรไทยให้สามารถขายผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง
และเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม นายอภิชาติ ใจงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนและปราบปราม และนายชลัฐ ปทุมพรรุจี ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 ได้ให้เจ้าหน้าที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามเคลื่อนที่เร็ว กองสืบสวนและปราบปราม และเจ้าหน้าที่จากด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์ลงพื้นที่เพื่อเฝ้าสังเกตุการณ์การลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านช่องทางต่าง ๆ จนพบรถบรรทุกต้องสงสัยว่า อาจมีของลักลอบหนีศุลกากรซุกซ่อนอยู่ภายในยานพาหนะคันดังกล่าว ในพื้นที่อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ฯ จึงขอเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบสินค้าเกษตรประเภทกระเทียมสดบรรจุกระสอบ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ ไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานแสดงการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง จำนวน 1,500 กระสอบ น้ำหนักรวม 30,000 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 800,000 บาท
กรณีดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 246 ประกอบมาตรา 166 และ 167 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ทำการยึดของกลางทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โฆษกกรมศุลกากร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับสถิติในการจับกุมสินค้าเกษตรประเภทกระเทียมและหอมหัวใหญ่ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 – มิถุนายน 2566 มีจำนวน 366 ราย น้ำหนัก 538,948 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 16.9 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะให้ความสำคัญกับการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร เพื่อเป็นการปกป้องและส่งเสริมเกษตรกรไทย พร้อมทั้งสร้างสมดุลทางการค้า ต่อไป