น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี ในฐานะอดีตโฆษก กมธ.วิสามัญ พิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนฯ ให้สัมภาษณ์ กรณีใบ GAP ชาวสวนทุเรียน ถูกสวมสิทธิ์และนำไปใช้โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ ว่า เรื่องนี้หน่วยงานรับผิดชอบ อย่างกรมวิชาการเกษตร ต้องตรวจสอบและทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง โดยเฉพาะกรณีจับทุเรียนที่สระแก้ว และพบว่า ใบ GAP ชาวสวนทุเรียน ที่ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ถูกนำมาอ้าง แต่แท้จริงแล้วเจ้าของใบ GAP ที่ อ.ขุนหาญ ขายให้ล้งที่ จ.จันทบุรี วันและเวลาที่ขายทุเรียน ก็ไม่ตรง นั่นหมายความว่า ใบ GAP ชาวสวนคนดังกล่าวถูกสวมใช่หรือไม่ และกรมวิชาการเกษตร จะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้ หากยังไม่ดำเนินการใดๆ จะทำให้เกษตรกรไม่มั่นใจในการทำงานของภาครัฐ
ส่วนกรณีใบ GAP ของชาวสวน-ผู้ประกอบการทุเรียน ที่ จ.ชุมพร พบว่า บางรายถูกนำไปใช้ก่อน หรือสวมสิทธิ์ นั้น น.ส.ญาณธิชาฯ บอกว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการ(ล้ง) ที่ จ.ชุมพร เช่นกัน เพราะเป็นผู้ประกอบการเดียวกับที่ จ.จันทบุรี ไปเปิดล้งส่งออกทุเรียนที่นั่น ด้วย ทราบว่า เรื่องใบ GAP ชาวสวนทุเรียน มีทั้งถูกนำไปใช้ก่อน และสวมสิทธิ์ เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งตรวจสอบ ว่า ใคร หรือขบวนการสวมสิทธิ์ใบ GAP มีใครบ้าง และต้องดำเนินการเอาผิดผู้มีส่วนร่วมทั้งหมด เนื่องจากปัญหานี้เป็นมาหลายปี แม้จะแก้ปัญหา แต่ก็ยังมีเกิดขึ้นทุกปี ซึ่งสงสัยคนกลุ่มนี้รู้ช่องทางทำกินจากเอกสารทางราชการ
ด้าน นายชลธี นุ่มหนู อดีต ผอ.สวพ.6 ยอมรับว่า เมื่อราว 2 ปีก่อน มีเจ้าหน้าที่ อปท. แห่งหนึ่ง ทำการปลอมลายเซ็นต์ของตนบนใบ GAP หลายสิบใบ และนำไปขายให้ผู้ประกอบการส่งออกใบละ 20,000 บาทเรื่องนี้รวบรวมหลักฐาน ส่งให้นิติกร กรมวิชาการเกษตร ดำเนินการแจ้งความเอาผิดผู้เกี่ยวข้องแต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าทางด้านคดีน.ส.ญาณธิชาฯ จึงต้องการให้มีการตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ดัวย
น.ส.ญาณธิชาฯ บอกว่า ควรจะทำ QR Code ใบ GAP ของชาวสวนลิงค์เข้ากับระบบของภาครัฐ เพื่อให้เกษตรกรตรวจสอบย้อนกลับได้ว่ามีการนำใบ GAP ของตัวเองไปใช้โดยที่ผลผลิตยังไม่ได้ตัด หรือเจ้าตัวไม่ทราบ ได้ เช่น หากพบว่ามีการคีย์เลขรหัสในใบ GAP ของชาวสวนเข้าระบบ หรือนำไปยื่นแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ข้อมูลจะได้แจ้งเตือนที่เกษตรกร ยืนยัน ความถูกต้องได้ทั้ง 3 ฝ่าย คือ เกษตรกร / ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่
