“ปลัดพาณิชย์”ลงพื้นที่ จ.ชุมพร ติดตามสถานการณ์การค้าทุเรียนภาคใต้ ที่ตลาดมรกต เผยผู้ประกอบการเข้ามารับซื้อไม่อั้น ดันราคาอยู่ในเกณฑ์ดี เกรด AB สูงกว่ากิโลกรัมละ 130 บาท ตกเกรด กก.ละ 100 บาท ย้ำติดตามการปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งเรื่องชั่งตวงวัด การซื้อขาย และมีการฮั้วกดราคาหรือไม่ มั่นใจตลาดส่งออก ยังไปได้ดี หลังจีนต้องการมาก และการขนส่งสะดวก หลังไปเจรจาไว้ล่วงหน้า พร้อมให้เตรียมรับมือมุงคุดรุ่น 2 ดันราคาดีเท่ารุ่นแรก
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ติดตามสถานการณ์การค้าทุเรียน และการดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ปี 2566 ที่ตลาดมรกต อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยพบว่าราคาทุเรียนเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก เกรด AB ราคาสูงกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 130 บาท และราคาทุเรียนตกเกรด กก.ละ 100 บาท ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผลผลิตทุเรียนภาคใต้ ที่กำลังออกสู่ตลาด เพราะผู้ส่งออก ล้งต่าง ๆ รับซื้อไม่อั้น
ทั้งนี้ ได้กำชับให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ติดตามการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งเรื่องพ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 ว่าเป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ว่าได้มีการซื้อขายถูกต้องหรือไม่ อย่างไร รวมทั้งภายใต้ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ว่ามีการปฏิเสธการรับซื้อหรือร่วมกันกดราคาหรือไม่ หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด
“จากการติดตามสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนภาคใต้ ตอนนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดไปกว่า 10% แล้ว คาดว่าปีนี้สถานการณ์การค้าทุเรียนน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะตลาดส่งออก โดยเฉพาะตลาดจีน มีความต้องการมาก และกระทรวงพาณิชย์เองก็ได้มีการไปตรวจเรื่องด่านมาแล้ว พบว่า การขนส่งไปยังจีน มีความคล่องตัว และยังได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของทั้ง 3 ประเทศ คือ สปป.ลาว เวียดนาม และจีน ให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสินค้าผลไม้ของไทย โดยเฉพาะทุเรียนไว้ล่วงหน้าแล้ว”นายกีรติกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมังคุด บ้านฉาน เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านราคา พบว่า ผลผลิตรุ่นแรกหมดแล้ว รุ่น 2 กำลังจะออกสู่ตลาด และคาดว่าจะมีมากในช่วงเดือน ก.ค.2566 เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันราคาอยู่ในเกณฑ์สูง โดยเกรดมันรวม อยู่ที่ 95-108 บาท/กก. เกรดลาย ประมาณ 53-81 บาท/กก. เกรดดอกดำ ประมาณ 33-59 บาท/กก. โดยได้กำชับให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ และกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตโดยเร็วต่อไป