เจ้าหน้าที่กลุ่มสารวัตรเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุทางการเกษตร สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 และเกษตรจังหวัดชุมพร ร่วมกันทำลายต้นกล้าปาล์มน้ำมันเถื่อนที่ไม่ได้คุณภาพกว่า5พันต้น มูลค่ารวมแล้วเป็นจำนวนมากกว่าแสนบาท ตามคำสั่งศาลที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ริบต้นกล้าปาล์มเป็นของกรมวิชาการเกษตร ฐานความผิดตาม พ.ร.บ. พันธุ์พืช 2518 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง รวบรวม ขาย นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษตามมาตรา 56 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากการจำหน่ายต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพสร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกรทำให้ได้ผลผลิตต่ำกว่าที่ควรจะได้ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศสูญเสียรายได้มหาศาล
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ปาล์มน้ำมันเป็นทั้งพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงาน เป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์หลายชนิด การทำสวนปาล์มน้ำมันเพื่อให้มีผลผลิตที่ดี มีประสิทธิภาพจะต้องมีการเลือกพันธุ์ที่ดี เลือกพื้นที่ปลูกให้เหมาะสม และจัดการสวนอย่างถูกต้องและเหมาะสมตามความต้องการของปาล์มน้ำมัน จะทำให้ผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน ดังนั้นการปลูกปาล์มน้ำมัน เกษตรกรต้องซื้อพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นพันธุ์ดี แต่จากภาวะปัจจุบันความต้องการต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่สูงมาก ทำให้มีการเพาะเมล็ดใต้โคนมาจำหน่ายทางสื่อออนไลน์-เฟชบุ๊กต่างๆ รวมถึงการจำหน่ายเมล็ดงอกไม่มีที่มาที่ถูกต้อง ส่งผลให้เกษตรกรหลงเชื่อซื้อต้นกล้าและเมล็ดงอกที่ไม่มีคุณภาพดังกล่าว ซึ่ง กรมวิชาการเกษตร มีคำแนะนำการเลือกซื้อต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพเพื่อปลูกเป็นการค้า ให้ผลผลิตสูงและได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยแนะนำเกษตรกรชาวสวนปาล์มหรือผู้ที่คิดจะเริ่มต้นทำสวนปาล์มน้ำมัน ดังนี้
การเลือกซื้อต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพ ควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้หรือผู้ผลิตที่สามารถให้คำรับรองพันธุ์และหลักฐานใบเสร็จรับเงินจากการซื้อพันธุ์ได้ ก่อนตัดสินใจซื้อขอให้สอบถามข้อมูล และตรวจสอบแหล่งที่มาของพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากผู้ผลิตก่อน เนื่องจากพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มาจากแหล่งผลิตที่มีมาตรฐานจะให้ผลผลิตดีกว่าพันธุ์ที่ไม่ทราบที่มาซึ่งจะเป็นความเสี่ยงอย่างมากสำหรับเกษตรกร และควรเลือกซื้อปาล์มน้ำมันลูกผสมเทเนอราจากแปลงเพาะชำที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร พันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีลักษณะดีให้เลือกต้นกล้าที่มีอายุ 8-12 เดือน ขึ้นไป และต้นกล้าต้องมีลักษณะสมบูรณ์แข็งแรง ทรงต้นแผ่กว้างไม่สูงชะลูด โคนต้นอวบสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมขอหนังสือสัญญาซื้อขายและใบเสร็จรับเงินจากผู้ผลิตเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ควรเลือกพื้นที่ปลูกในเขตที่เหมาะสม พร้อมศึกษาข้อจำกัดของปาล์มน้ำมันก่อนปลูกจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้