สนค.วิเคราะห์ส่งออกปี 65 พบไทยครองตำแหน่งแชมป์โลกได้ถึง 5 สินค้า “ถุงยางอนามัย ปลาทูน่ากระป๋อง ทุเรียน มันสำปะหลัง สับปะรดกระป๋อง” เผยบางรายการ แม้จะครองแชมป์ แต่คู่แข่งเริ่มชิงส่วนแบ่งตลาด แนะปรับกลยุทธ์ เร่งขยายตลาดใหม่เพื่อเพิ่มยอดส่งออก
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้วิเคราะห์ 5 สินค้าไทยที่ครองตำแหน่งแชมป์ส่งออกโลกจาก Global Demand Dashboard ในเว็บไซต์คิดค้า .com พบว่า ถุงยางอนามัย และปลาทูน่าประป๋อง เป็นกลุ่มแชมป์โลกสินค้าไทยที่โดดเด่น มีส่วนแบ่งตลาดโลกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ทุเรียน มันสำปะหลัง และสับปะรดกระป๋อง เป็นกลุ่มแชมป์โลก ที่แม้ไทยครองแชมป์เป็นอันดับ 1 แต่คู่แข่งเริ่มชิงส่วนแบ่งตลาดโลกจากไทยไป จึงต้องปรับกลยุทธ์สินค้า และขยายตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม เพื่อรักษาแชมป์สินค้าไทยเอาไว้
สำหรับทุเรียนสดในปี 2565 ไทยส่งออกมูลค่า 3,219.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ จีน ฮ่องกง และไต้หวัน ตามลำดับ และทุเรียนสดไทย ครองส่วนแบ่งตลาดโลกเป็นอันดับ 1 สูงถึง 93.3% ของมูลค่านำเข้ารวมทั่วโลก โดยลดลงจากปีก่อนหน้า 3.9% รองลงมา คือ เวียดนาม 6.0% และมาเลเซีย 0.7%
มันสำปะหลัง ไทยส่งออกมูลค่า 1,523.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีน เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย คิดเป็น 98.6% ของมูลค่าส่งออกไทยทั้งหมด และครองส่วนแบ่งตลาดโลกเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 46.5% ของมูลค่านำเข้ารวมทั่วโลก โดยลดลงจากปีก่อนหน้า 5.6% รองลงมาเป็นกัมพูชา 34.1% และสปป.ลาว 9.1%
ถุงยางอนามัย ไทยส่งออกมูลค่า 272.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ จีน สหรัฐฯ และเวียดนาม และครองส่วนแบ่งตลาดโลก เป็นอันดับ 1 สูงถึง 44.0% ของมูลค่านำเข้ารวมทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 0.3% รองลงมาเป็นจีน 12.8% และมาเลเซีย 10.8%
สับปะรดกระป๋อง ไทยส่งออกมูลค่า 469.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย และเยอรมนี และครองส่วนแบ่งตลาดโลก เป็นอันดับ 1 สูงถึง 36.4% ของมูลค่านำเข้ารวมทั่วโลก รองลงมาเป็นอินโดนีเซีย 25.7% และฟิลิปปินส์ 18.0%
ปลาทูน่ากระป๋อง ไทยส่งออกมูลค่า 2,284.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย และครองส่วนแบ่งตลาดโลก เป็นอันดับ 1 สูงถึง 24.8% ของมูลค่านำเข้ารวมทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 0.2% รองลงมาเป็นเอกวาดอร์ 15.2% และสเปน 9.5%
“ไทยมีศักยภาพสูงในการส่งออกสินค้าหลากหลายชนิด โดยอาศัยความได้เปรียบของแหล่งวัตถุดิบภายในประเทศและเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาค ทำให้หลายประเทศทั่วโลกไว้ใจสินค้าไทย และบางชนิดมีส่วนแบ่งการค้าสูงเป็นอันดับที่ 1 ของโลก แต่ก็พบว่าในสินค้าบางชนิด คู่แข่งเริ่มเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดโลกจากไทยไป โดยเฉพาะทุเรียนสด เนื่องจากเวียดนาม เพิ่งได้รับอนุญาตให้ส่งทุเรียนสดเข้าประเทศจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของไทยในปัจจุบัน ผู้ส่งออกจึงจำเป็นต้องจับตามองคู่แข่งอย่างใกล้ชิด มองหาโอกาสในระดับรายเมือง มณฑล และพยายามปรับกลยุทธ์สินค้าเพื่อรักษาตลาดเดิมเอาไว้ เช่น ปรับกลยุทธ์มาส่งออกทุเรียนคุณภาพ อินทรีย์หรือเฉพาะกลุ่มเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า รวมถึงหาโอกาสส่งออกในตลาดใหม่ ๆ เพิ่มเติมเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดจีนที่ค่อนข้างสูง” นายพูนพงษ์กล่าว