นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เดินหน้าสร้างความมั่นใจให้กับประเทศผู้นำเข้าข้าวไทยว่า ไทยให้ความสำคัญกับการส่งออก “สินค้าข้าว” ไปยังต่างประเทศ โดยได้มีการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการ “ส่งข้าว” ออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2562 อย่างเคร่งครัดเพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของ “ข้าวไทย” และรักษาความเชื่อมั่นใน“สินค้าข้าวไทย”ในตลาดโลก
ล่าสุดกรมฯ ได้ขอความอนุเคราะห์กรมศุลกากรให้แจ้งไปยังหน่วยงานในสังกัดให้กำกับดูแล“การส่งออกข้าวไทย”ให้เป็นไปตามระเบียบดังกล่าวและยังแจ้งให้ “ผู้ส่งออกข้าวไทย” ไปต่างประเทศทุกรายให้ถือปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และกรมฯ ยังจะจัดให้มีการสุ่มตรวจเอกสารประกอบการส่งออกข้าวไทยเป็นระยะ ๆ เพื่อกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวข้างต้นอีกทางหนึ่งด้วย นายพิทักษ์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ “ส่งออกข้าวไทย” นั้น ก่อนหน้านี้ ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยว่า ในช่วง 3 เดือน ม.ค.-มี.ค. ปี 2565 ส่งออกได้แล้วประมาณ 1.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% หรือส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 600,000 ตัน เพราะหลายประเทศเร่งนำเข้าเพื่อเก็บสต๊อกไว้ เนื่องจากกังวลสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่คาดจะส่งผลกระทบต่อภาวะตลาด รวมถึงการขนส่งระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ผู้นำเข้าแถบตะวันออกกลาง เช่น อิรัก อิหร่าน เอเชียอย่างจีน ญี่ปุ่น และแอฟริกา ยังคงมีความต้องการนำเข้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ข้าวจะมีเพียงพอสำหรับการบริโภคในช่วงความขัดแย้งยังไม่คลี่คลาย รวมถึงธัญพืชสำคัญ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ตึงตัว จึงส่งผลให้มีความต้องการข้าวเพื่อทดแทนเพิ่มขึ้นและ “ข้าวไทย”ทรงตัว จากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ทำให้ราคา “ข้าวไทย” ใกล้เคียงกับคู่แข่งและแข่งขันได้ดี
นอกจากนี้ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย มั่นใจว่าปี 65 ไทยจะส่งออกข้าวได้ตามเป้าหมายที่ 7 ล้านตันแน่นอน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่ส่งออกได้ราว 6 ล้านตัน
