“จุรินทร์”ชี้แจงฝ่ายค้านทุกช็อต สินค้าเกษตรราคาดีเกือบทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นข้าว มัน ข้าวโพด ปาล์ม ทุเรียน มังคุด ลำไย เงาะ ลิ้นจี่ มะม่วง ส้ม พืช 3 หัว เว้นยางพารา แต่มีประกันรายได้คอยช่วย คาดเข้า ครม. และจ่ายได้ต่อไป ส่วนส่งออกไม่ถดถอย ปี 65 โต 5.5% ทำเงินเข้าประเทศเกือบ 10 ล้านล้าน ปีนี้ตั้งเป้าโต 1-2% ยันเงินเฟ้อไทยลดลงเป็นลำดับ ปีนี้คาดเพิ่มแค่ 2.8% ย้ำของไม่ได้แพงทั้งแผ่นดิน ล่าสุดสินค้าลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งหมู ผัก น้ำมันปาล์ม ปุ๋ยยันเดินหน้าทำ FTA ล่าสุดเตรียมนับหนึ่งไทย-อียู คาดปี 67 มีประเทศที่ทำ FTA แซงเวียดนามแน่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการชี้แจงฝ่านค้านถึงประเด็นต่าง ๆ ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า ที่สมาชิกอภิปรายว่า พืชเกษตรตกต่ำทุกตัว ตกต่ำมาตลอด ไม่จริง ราคาพืชเกษตรเฉลี่ยดีเกือบทุกตัว โดยที่ประกันรายได้ ข้าวเปลือกเจ้า เกือบ 10,000 บาท/ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ 1,4000-15,000 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเหนียว 11,000-12,000 บาท/ตัน มันสำปะหลัง ก่อนรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละบาทกว่า วันนี้ 3 บาทกว่า/กก.
ล่าสุด ตนพาฟิลิปปินส์มาเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 2,000,000 ตัน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ยิ่งช่วยดีมาก ราคามีแนวโน้มดีขึ้น ปาล์มน้ำมันก่อนนี้ 10-12 บาท/กก. ตอนนี้ 5 บาทกว่า/กก. ก่อนรัฐบาลนี้ เพียง 2 บาทกว่า/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สมัยก่อน 6-7 บาท/กก. เดี๋ยวนี้ 12-13 บาท/กก. ผลไม้ยิ่งดี ราคาปีที่แล้ว ทุเรียนหมอนทองเฉลี่ย 145 บาท/กก. มังคุดเกรดส่งออก 60 บาท/กก. ลำไยช่อส่งออก เกรดเอเอ 42.50 บาท/กก. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาล ประสานงานเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ดูแลชดเชยไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ ตนลงนามเข้า ครม.แล้ว รอพิจารณา เงาะโรงเรียน 20.50 บาท/กก. ลองกอง 12.50 บาท/กก. ลิ้นจี่ 75 บาท/กก. มะม่วงน้ำดอกไม้ 45 บาท/กก. ส้มเขียวหวาน 25 บาท/กก. หอมหัวใหญ่ปีนี้ 16 บาท/กก. จาก 8 บาทกว่า/กก. หอมแดง 13 บาท/กก. กระเทียม 20 บาท/กก. หอมแดงแห้ง 48 บาท/กก. จาก 26 บาท/กก. กระเทียม 78 บาท/กก.
ทั้งนี้ เห็นได้ชัดเจนว่าราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัว ยกเว้นยางพารา ตอนนี้ 45-49 บาท/กก. เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รถยนต์ขายยากขึ้น ขายล้อรถน้อยลง สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ใช้ถุงมือยางลดลง แต่รัฐบาลนี้มีประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรชาวสวนยาง 3 ปีที่ผ่านมา ชดเชยเงินส่วนต่างให้ แต่ปีนี้ช้าหน่อย ครม.กำลังจะพิจารณาในอีกไม่กี่สัปดาห์ จะชดเชยใช้ส่วนต่างให้ได้ต่อไปเหมือนที่ผ่านมา
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การส่งออกไทยที่สมาชิกวิจารณ์ว่าเริ่มถดถอย เรียนว่าไม่ได้ถดถอย ตรงข้ามปีที่แล้วทั้งปีตัวเลขส่งออกบวกถึง 5.5% ขณะที่หลายประเทศในโลกไม่เท่าเรา ทำเงินให้ประเทศถึง 9.94 ล้านล้านบาท เกือบ 10 ล้านล้านบาท สูงสุดในประวัติศาสตร์ คือ การสร้างเงินให้ประเทศ และปี 2566 แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตนทำงานกับเอกชนจะเดินหน้าให้บวก 1-2% แม้ตลาดสำคัญถดถอย แต่บางตลาดมีศักยภาพ 1.ตะวันออกกลาง 2.เอเชียใต้ 3.CLMV ตนจึงเดินทางไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เซ็นสัญญาตั้งสภาธุรกิจไทย-ยูเออี ที่ดูไบ และขายของได้ทันที 1,300 ล้านบาท และพาสภาคมผู้ส่งสินค้าทางเรือและสมาคมโลจิสติกส์ไทยเซ็น MOU กับบริษัทใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่งของโลกด้านขนส่งของดูไบ คือ DP world เครือข่ายท่าเรือ 78 ท่า 240 สนามบิน ได้สิทธิพิเศษในการขนส่ง สร้างเงินให้ประเทศเติมตัวเลขการส่งออกให้เอกชนและรัฐบาลนำเงินเข้าประเทศคล่องตัวขึ้น ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
ส่วนประเด็นเงินเฟ้อและของแพงทั้งแผ่นดิน เป็นประเด็นเดิมที่อภิปรายแล้ว ไทยเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเงินเฟ้อเดือนม.ค.2566 ลดลงเหลือ 5% อัตราเฉลี่ยของโลก IMF คาดว่าปี 2566 เงินเฟ้อโลก 6.5% แต่ไทยจะเฟ้อแค่ 2.8% ดีกว่าหลายประเทศ เพราะรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์และเอกชน กำกับราคาต้นทุนการผลิตบางอย่าง ราคาสินค้าดีตามสมควร แม้ราคาน้ำมัน แก๊ส ค่าไฟยังไม่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
“ที่บอกแพงทั้งแผ่นดิน ความจริงราคาสินค้าลดลงเยอะมาก 58 รายการจำเป็นที่ติดตามทุกวัน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น หมูเนื้อแดง ที่เคยอภิปรายว่าจะ 300 บาท/กิโลกรัม (กก.) พบเฉลี่ย 165 บาท/กก. ผักชีลดลง 27% กวางตุ้ง ลดลง 23% ต้นหอม ลดลง 28% น้ำมันปาล์ม 48-50 บาท/ขวด ลดลง 17% ชุดตรวจ ATK ลดลง 28% ฟ้าทะลายโจร ลดลง 63% ข้าวสาลี ลดลง 21% ปุ๋ยเคมีทำจากก๊าซธรรมชาตินำเข้า 100% เข้าไปกำกับดูแลแก้ปัญหา ทำให้ปุ๋ยไม่ขาด นำเข้าจากซาอุดิอาระเบียหลายแสนตัน และราคาลดลง เช่น ยูเรีย 46-0-0 ลดลง 25% ประมาณ 400 บาท/กระสอบ ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ลดลง 30% ลด 300 กว่าบาท/กระสอบ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ลดลง 8% 100 กว่าบาท/กระสอบ เป็นต้น
สุดท้ายเรื่อง FTA ที่บอกว่าไทยตามหลังเวียดนามไม่เห็นฝุ่น ขณะนี้ตามหลังจริง ไม่ได้เป็นตอนรัฐบาลชุดนี้ แต่ตามหลังก่อนหน้านี้แล้ว รัฐบาลนี้กำลังไล่กวดให้ทันเวียดนามและอนาคตมีโอกาสแซงหน้าเวียดนาม ปัจจุบันไทยมี FTA 14 ฉบับ 18 ประเทศ เวียดนามมี 16 ฉบับ 54 ประเทศ ตนนำคณะไปบรัสเซลส์ เบลเยียม เจรจา FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ที่ค้างคากว่า 10 ปี สหภาพยุโรปมีสมาชิก 27 ประเทศ ถ้าสำเร็จ FTA ที่ทำจะเพิ่มเป็น 45 ประเทศ จะเร่งจัดทำกระบวนการแต่ละฝ่ายให้เร็วที่สุด ตนพบรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของสหภาพยุโรป ตัวแทน 27 ประเทศ จะทำให้เสร็จในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ เพื่อนับหนึ่งการเจรจา FTA ซึ่งได้ผ่าน ครม.เห็นชอบแล้ว รอทางสหภาพยุโรปให้คำรับรองอีก 27 ประเทศ ยืนยันว่าอีกไม่นานจะมาประกาศร่วมนับหนึ่งเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ให้ไทยมีประเทศทำ FTA เพิ่มเป็น 45 ประเทศ ไล่กวดเวียดนาม และภายในปีกว่า จะมี FTA ไทย-ตุรกี ไทย-ศรีลังกา ไทย-ปากีสถาน ไทย-อาเซียน ไทย-แคนาดา และไทย-BIMSTEC ถ้าทำได้ตามนี้ภายในปี 2567 ไทยจะแซงเวียดนามเรื่องจำนวนประเทศที่ทำ FTA