รมช.พาณิชย์ “สินิตย์ เลิศไกร” เผยผลนำทีมผู้บริหารพาณิชย์ลงพื้นที่ จ.กระบี่ และจ.สุราษฎร์ฯเตรียมช่วยผลักดัน “กาแฟคลองท่อม” ของดีกระบี่ ใช้ประโยชน์ FTA ขยายตลาดต่างประเทศ หลังพบสามารถผลิตสินค้าเกรดพรีเมียม ได้การันตีเพียบ ทั้ง อย. ฮาลาล OTOP 5 ดาว และ GI และช่วยผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี ใช้ FTA ทำตลาดต่างประเทศเช่นเดียวกัน เหตุผลิตสินค้าได้มาตรฐานสากล
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่และสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 22-23 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา ว่า ได้พบปะเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปกาแฟสดสตรีคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตกาแฟคุณภาพระดับประเทศ โดยพบว่าผลิตภัณฑ์ได้รับเครื่องหมาย อย. ฮาลาล และ OTOP 5 ดาว อีกทั้งกาแฟกระบี่ยังได้รับเครื่องหมายรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ส่งผลให้จำหน่ายได้ในราคาสูง และมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์พื้นเมือง รวมทั้งพื้นที่ปลูกมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์จากดินภูเขาไฟ และมีสภาพอากาศเหมาะสม
“จากการพบปะหารือ พบว่า วิสาหกิจชุมชนมีความพร้อมในการผลิตสินค้าที่มีศักยภาพ อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ จึงเป็นที่ยอมรับและเป็นที่นิยมมาก และมีความต้องการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งเห็นว่าสามารถพัฒนาต่อยอดและทำให้สินค้ากาแฟกระบี่เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ จึงได้มอบให้กรมเจรจาการค้าระหว่างเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยพัฒนาสินค้าและขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยได้จัดทำ 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ได้ลดหรือยกเลิกการจัดเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าจากไทยแล้ว”นายสินิตย์กล่าว
สำหรับการหารือกับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง สหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง จำกัด อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า สินค้ากุ้งและผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ เป็นสินค้าระดับพรีเมียมที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล มีความพร้อมใช้ประโยชน์จาก FTA ในการส่งออกไปตลาดการค้าเสรี ซึ่งเน้นเจาะตลาดผู้บริโภคที่ใส่ใจสินค้าเพื่อสุขภาพ ปลอดภัย และรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงพาณิชย์จะให้ความรู้เรื่องการส่งออกและการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ไทยได้จัดทำ 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ เช่น อาเซียน จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และนิวซีแลนด์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดต่างประเทศให้กับสินค้ากุ้งจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไป
ในปี 2564 ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้ากาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟอันดับที่ 38 ของโลก โดยไทยส่งออกสินค้ากาแฟและผลิตภัณฑ์ไปตลาดโลก มูลค่า 103.62 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกกาแฟสำเร็จรูปที่สำคัญ ได้แก่ กัมพูชา ญี่ปุ่น สปป.ลาว เมียนมา สหรัฐฯ และแคนาดา โดยปัจจุบัน 14 ประเทศคู่ FTA (อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง และชิลี) ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้ากาแฟจากไทยทุกรายการแล้ว ยกเว้น 4 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เก็บภาษีกาแฟคั่ว 10-12% จีน เก็บภาษีกาแฟไม่ได้คั่วทั้งที่แยกและไม่ได้แยกกาเฟอีน และกาแฟคั่วที่ไม่ได้แยกกาเฟอีน 5% เปรู เก็บภาษีกาแฟคั่วและไม่คั่ว 6-11% และอินเดีย เก็บภาษีกาแฟคั่ว 100%
ส่วนกุ้ง ในช่วง 10 เดือน ปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) ไทยส่งออกกุ้งไปตลาดโลก มูลค่า 1,287.5. ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งออกกุ้งแปรรูปไปตลาดโลก มูลค่า 620 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก คือ สหรัฐฯ สัดส่วน 29.4% ญี่ปุ่น สัดส่วน 26.8% จีน สัดส่วน 17.1% เกาหลีใต้ สัดส่วน 5.5% และไต้หวัน สัดส่วน 4.8% โดยไทยเป็นผู้ส่งออกกุ้งและกุ้งแปรรูปเป็นอันดับที่ 7 ของโลก รองจากอินเดีย เอกวาดอร์ เวียดนาม แคนาดา อินโดนีเซีย และจีน ปัจจุบันประเทศคู่ FTA (อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง ชิลี เปรู) ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้ากุ้งและกุ้งแปรรูปจากไทยทุกรายการแล้ว