ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลเรื่องการปลดล็อกกัญชา หลังจากมีการแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2562 (ฉบับที่ 7 ) ว่า การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565 ทำให้ไทยกลายเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่แก้ไขกฎหมายให้กัญชาออกจากบัญชีสารเสพติด และใช้ในทางการแพทย์ได้ การปลดล็อกกัญชาโดยไร้กฎหมายควบคุมและขาดความรอบคอบได้ส่งผลเสียหายต่อสังคม ที่ผ่านมาแพทย์ทั่วประเทศ เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชน ได้เรียกร้องให้ปิดสภาวะกัญชาเสรี หากยังไม่มีกฎหมายควบคุม
กัญชาเป็นยาเสพติด ที่ผ่านมามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์มากมาย ระบุว่ากัญชาได้ส่งผลกระทบต่อร่างกายและการเจริญเติบโตของสมองเด็ก และวัยรุ่นอย่างมากทั้งในฐานะผู้สูบด้วยตนเองหรือรับสารทางอ้อมจากคนในครอบครัว
นอกจากนี้ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) ได้จัดเวทีเสวนาขึ้นโดยข้อมูลจากวงเสวนา พบว่า ในระยะเวลาที่รัฐบาลเปิดให้อยู่ในสถานะกัญชาเสรี มีเยาวชนผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สูบกัญชามากขึ้น 2 เท่า เนื่องมาจากการเข้าถึงที่ง่ายขึ้นเพราะกัญชาหาง่ายขึ้น ผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดทางจิตจากกัญชาสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2564 อยู่ที่ 14% ส่วนปี 2565 เกือบ 17%
นอกจากนี้ยังพบว่ากัญชาที่ประชาชนปลูกมากกว่า 90 -95% คุณภาพของผลผลิตที่ได้ไม่สามารถนำไปใช้ทางการแพทย์ได้ เนื่องจากขาดองค์ความรู้ ทำให้เกิดคำถามว่า กัญชาที่ขายไม่ได้ในทางการแพทย์ และอยู่ในภาวะล้นตลาดผลผลิตเหล่านี้หายไปไหน หรือเอาไปขายที่ไหน ถ้าไม่มีการควบคุมผลผลิตจำนวนมากจะไหลเข้าสู่ตลาดของการเสพกัญชาเสรี
ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันชัดเจนมาตั้งแต่ต้นในการสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์ ไม่สนับสนุนกัญชาเพื่อสันทนาการ ดังนั้นการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาต้องครอบคลุม เกิดประโยชน์ทางการแพทย์อย่างแท้จริง ฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ในการพิจารณากฎหมายอย่างรอบคอบ ส.ส.ทุกคนและทุกพรรคการเมืองมีเอกสิทธิ์ในการผ่านกฎหมาย ดังนั้นการชี้ให้เห็นว่ากัญชามีประโยชน์มากกว่ามีโทษและการผ่านกฎหมายนั้นสำคัญเป็นเรื่องที่ฝ่ายที่สนับสนุนกัญชาเสรีต้องกระทำ “อย่ามัวแต่โทษคนอื่น”
“วันนี้ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือ ถึงแม้ว่ามีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…)พ.ศ… ในอนาคต แต่ช่องว่างการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ การสูบกัญชาในบ้านอันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล รัฐบาลจะทำอย่างไร เพราะอย่าลืมว่า วันนี้กัญชาไม่ใช่สารเสพติดอีกต่อไปแล้ว การสูบเพื่อความบันเทิงกำลังเป็นจุดเริ่มต้นของการเสพติดหรือไม่ โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนและอาจนำพาไปสู่ยาเสพติดประเภทอื่นๆในอนาคต จะปราบยาเสพติดได้อย่างไรถ้าจุดเริ่มต้น เริ่มที่กัญชา” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทย ได้นำเสนอนโยบายการปลดกัญชาออกจากยาเสพติด เพื่อให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ และสุขภาพโดยได้รับความสะดวกมากที่สุด และสามารถนำไปใช้เป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และต่อมาได้ผลักดันนโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล