วันที่ 16 กันยายน 65 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธาน กมธ.เป็นประธานการประชุม เพื่อทบทวนเนื้อหาตามที่สภาลงมติให้ถอดเนื้อหากลับไปพิจารณาใหม่
ทั้งนี้ ในการประชุมช่วงต้น กมธ.ได้อภิปรายโดยมีสาระสำคัญที่จะยืนยันรายงานที่ กมธ.เสนอเข้าสู่สภา เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา โดยไม่มีการแก้ไข เนื่องจาก กมธ.ได้พิจารณาเนื้อหาด้วยความละเอียดรอบคอบและรัดกุมทุกประเด็นที่มีการอภิปรายในที่ประชุมสภาแล้ว อีกทั้งวันนี้ (16 กันยายน) ไม่มี ส.ส.คนใดส่งประเด็นที่ต้องการให้ กมธ.ปรับปรุงแก้ไข
จากนั้นเวลา 15.00 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … แถลงภายหลังการประชุมว่า กมธ.มีมติให้ส่งหนังสือไปยังทุกพรรคการเมืองที่ลงมติให้ถอดร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากระเบียบวาระ และขอให้ส่งประเด็นที่ทักท้วงให้ กมธ.พิจารณาภายใน 7 วัน และ กมธ.จะนัดประชุมอีกครั้งวันที่ 3 ตุลาคม เพื่อพิจารณา ส่วนจะมีความเห็นอย่างไรจะหารือและขอมติ กมธ.อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมของ กมธ.ยังไม่เห็นประเด็นใดที่ควรแก้ไข เพราะเนื้อหาที่ ส.ส.อภิปรายเมื่อวันที่ 14 กันยายนนั้น เป็นประเด็นที่ กมธ.พิจารณาไปหมดแล้ว ไม่มีประเด็นใหม่
“กมธ.มองว่าสภาไม่ควรประวิงเวลา หากไม่เห็นด้วยกับมาตราที่ กมธ.แก้ไข ควรใช้การพิจารณาและลงมติว่าจะเห็นชอบ หรือจะแก้ไขเนื้อหาตามที่มีผู้สงวนคำแปรญัตติ ไม่ควรเล่นการเมือง อย่างไรก็ดี กมธ.ไม่มีการหารือว่าควรให้สภาเปิดประชุมสมัยวิสามัญหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของวิปสภาที่ต้องพิจารณา” นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพกล่าวยืนยันว่า การลงมติให้ถอดร่าง พ.ร.บ.กัญชา กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเล่นการเมือง ระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา เป็นนโยบายของรัฐบาลและได้รับคำรับรองจากนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นกฎหมายการเงิน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วซึ่งจะเข้าสู่การประชุมในวาระ 2
ปรากฏว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นหารือว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำร่างฯไปปรับปรุงอีกสักครั้งหนึ่ง เนื่องจากหลังสภาฯ รับร่างกฎหมายฉบับนี้ในวาระแรก มีการปรับปรุงแก้ไขทั้งร่าง จากเดิมมี 45 มาตรา เพิ่มเป็น 69 มาตราและแก้เกือบทุกมาตรา อาจไม่รอบคอบได้
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 8 – 9 มิถุนายน ที่ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด มีความวิตกกังวลไปทั่วทั้งจากวงการการแพทย์ วงการศึกษา ประชาชนทั่วไป และเข้าใจว่าเป็นการเปิดกัญชาเสรีแล้ว ร่างกฎหมายฉบับนี้น่าจะนำไปสู่การควบคุมได้ดีที่สุด แต่ปรากฏว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นการควบคุมหรือใช้ทางการแพทย์เท่านั้น จึงมีข้อเรียกร้องจากศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติดของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ทบทวนกฎหมายฉบับนี้ ถึงขนาดว่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกหรือไม่หรือในบทบัญญัติมาตราอื่น ที่ให้ประชาชนปลูกได้โดยเสรี เพียงไปจดแจ้งเท่านั้น ซึ่งใช่วัตถุประสงค์ทางการแพทย์ แต่เป็นการสันทนาการ ดังนั้นถ้ากรรมาธิการกลับไปทบทวนร่างกฎหมายฉบับนี้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาก็จะมีเวลาทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่มีการทักท้วงมา
ขณะที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย อาทิ นายศุภชัย , นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายให้เดินหน้าพิจารณา หากมีประเด็นที่ไม่รัดกุมควรใช้วาระพิจารณาวาระสองแก้ไข และขออย่ามองเป็นประเด็นทางการเมือง พร้อมกับเสนอญัตติให้สภาฯเดินหน้าพิจารณา
ทั้งนี้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายขอให้สภาฯ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผ่านการเดินหน้าพิจารณา หากถอนร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชงออกไป และเสนอกลับมาใหม่ อาจไม่ทันบังคับใช้ และอาจตกไป เนื่องจากวาระทางการเมือง เช่น การยุบสภา เพราะแม้จะผ่านขั้นตอนของสภาฯ ต้องส่งไปส.ว. และดำเนินการหลายขั้นตอน และข้อเสนอดี ๆ อาจจะตกไปได้ ดังนั้นสภาฯควรรับผิดชอบร่วมกันไม่ควรปล่อยให้บ้านเมืองมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายที่ประชุมสภามีมติให้ ถอน ร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ออกจากระเบียบวาระการประชุม ด้วยมติ 198 เสียง ต่อ 136 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง