นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการ “ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์“(นบขพ.) และคณะกรรมการนโยบายอาหาร ครั้งที่ 1/2565 โดยมีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สภาเกษตรกรแห่งชาติ สมาคมการค้าพืชไร่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมชาวไร่มันสำปะหลัง สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ และผู้แทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
หลังการประชุม นายจุรินทร์ กล่าวว่า การประชุม “คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์”จากผลประชุมครั้งที่แล้วที่ประชุมได้มอบหมาย 5 ฝ่าย ประชุมร่วมกันในการแก้ปัญหาการขาดแคลน “วัตถุดิบอาหารสัตว์”ในอนาคต
ที่ประชุม 5 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.ผู้แทนส่วนราชการ กระทรวงพาณิชย์กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงการคลัง เป็นต้น 2.ผู้แทนสภาเกษตรกรที่เกี่ยวกับข้าวโพดและสมาคมชาวไร่มันสำปะหลัง 3.สมาคมการค้าพืชไร่ 4.สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ หมูและไก่เนื้อ 5.สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ ประชุมหารือร่วมกันและมีข้อสรุปเสนอที่ประชุม “คณะกรรมการนโยบายข้าวโพด “ในวันนี้ เพื่อดูแลปริมาณ“วัตถุดิบอาหารสัตว์” ให้เพียงพอภายในประเทศและการ “ผลิตอาหารสัตว์”ต่อไป จากมาตรการที่เคยกำหนดไว้เดิมให้สามารถนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้สะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น และส่งเสริมการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์มาชดเชยส่วนที่ขาดในปัจจุบันและส่งเสริมให้มีการนำเข้า “วัตถุดิบอาหารสัตว์“จากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะเมียนมา โดยจัดให้มีกิจกรรมจับคู่ออนไลน์ OBM ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 นี้
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าประเด็นสำคัญประกอบด้วย 1.ยกเว้นเงื่อนไขที่กำหนดไว้เดิมในการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วนเป็นการชั่วคราวก่อน คือระหว่างเดือนพฤษภาคมถึง 31 กรกฎาคม 2565ซึ่งเป็นการผ่อนปรนมาตรการที่กำหนดไว้เดิมในการนำเข้า “วัตถุดิบอาหารสัตว์” เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดในประเทศ 2.เพิ่มโควต้านำเข้า “ข้าวโพด” จากเดิมกำหนดไว้ 54,700 ตัน เป็นไม่เกิน 600,000 ตัน ภายในเดือนพฤษภาคมถึง 31 กรกฎาคม 2565 จะมีผลให้ลดภาษีนำเข้าข้าวโพดจากอัตรา 20% เป็น 0% เป็นการชั่วคราว ในช่วง 3 เดือนนี้ 3.การนำเข้าช่องทางอื่นตามปกติ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะช่วยจับคู่ธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้เพียงพอในประเทศในช่วง 3 เดือนนี้ต่อไป
“เป็นการกำหนดให้นำเข้า “วัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์” ได้ 3 ช่องทาง มีปริมาณรวมกันไม่เกิน 1,200,000 ตัน ตั้งแต่เมษายนถึง 31 กรกฎาคม 2565 เพื่อชดเชยส่วนที่ยังขาดให้มีเหลือพอใช้หนึ่งเดือน และให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ฝ่าย เพื่อติดตามประเมินการผลดำเนินการทั้งหมดและสามารถเสนอให้ทบทวนหรือปรับปรุงมาตรการต่อไปได้เพื่อความเหมาะสม ” นายจุรินทร์ กล่าว