งาน “พันธุ์บุรีรัมย์” กลับมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากห่างหายไป 2 ปี ด้วยภาวะการณ์โควิด19 โดยจัดงานภายใต้คอนเซ็ปต์ มหกรรมกัญชา-กัญชง เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในไทย เนรมิตพื้นที่ 1,200 ไร่ รวมทุกเรื่องราว “พืชเปลี่ยนเศรษฐกิจ” ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ พบกับนิทรรศการให้ความรู้ นวัตกรรมการปลูก การสกัด การแปรรูป ฟาร์มทัวร์ การประกวดต้นกัญชา กัญชง ฯลฯ พร้อมต่อยอดเชิงธุรกิจ และกิจกรรมภาคความบันเทิงจัดเต็ม 2 เวที ตลอด 3 วัน กับศิลปินดังไทย-เทศ ตลกดังแห่งยุค ครบเครื่องที่สุดที่เดียวในประเทศไทย
จากความสำเร็จในการจัด มหกรรมกัญชาทางการแพทย์ ภายใต้ชื่องาน “พันธุ์บุรีรัมย์” ครั้งแรก ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 19-21 เมษายน 2562 ผู้ร่วมงานมากกว่า 150,079 คน มีผู้มายื่นขอจดครอบครองกัญชา 12,753 ราย ผ่านเกณฑ์การขอจดครอบครองกัญชา จำนวน 4,397 ราย ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งในและสำนักข่าวต่างประเทศมากกว่า 200 คน ผู้ร่วมออกร้านในงาน 3,290 ราย จัดเต็ม ภาคความบันเทิงศิลปินไทยและต่างประเทศ มากกว่า 70 วง
นางสาวชิดชนก ชิดชอบ ประธานวิสาหกิจชุมชนพันธุ์บุรีรัมย์และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอาร์ เพาเวอร์ จำกัด ผู้ริเริ่มและเป็นหัวเรือหลักสำคัญของงาน “พันธุ์บุรีรัมย์” เปิดเผยที่มาของการจัดงานว่า กัญชา-กัญชงเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์ให้หลายด้าน เป็นที่ยอมรับนานาชาติ รวมทั้งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย ให้มีรายได้ที่ดี พึ่งพาตนเองได้ สามารถปลูกทดแทนพืชเศรษฐกิจดั้งเดิมได้ แต่ต้องยอมรับว่าในบ้านเรา ยังไม่มีองค์ความรู้ หรือการศึกษาพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ทั้งสองชนิดนี้ อย่างกว้างขวางนัก ทั้งแง่การปลูกเพื่อการค้าหรืออุตสาหกรรม จึงเป็นที่มาของการจัดงานในครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน
การจัดงาน “พันธุ์บุรีรัมย์” ครั้งนี้จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนว่า กัญชา-กัญชง เป็นพืชเปลี่ยนเศรษฐกิจ ที่สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจได้ สามารถนำมาต่อยอดเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในการทำเป็นธุรกิจได้อย่างไร, การเพาะและขยายพันธุ์ต้นกล้าทั้งสายพันธุ์ไทยและสายพันธุ์นอก, การเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ, การศึกษาวิจัยหาสูตรในการปลูก ดูแลและเก็บเกี่ยวที่จะได้ผลดีที่สุด จนสามารถเป็นสินค้าอุตสาหกรรมได้ ซึ่งในต่างประเทศมีการนำมาผสมเป็นอาหาร เครื่องดื่ม อุตสาหกรรมก่อสร้าง, ยานยนต์ ฯลฯ สร้างรายได้มหาศาลต่อปี หากสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจในวงกว้างในประเทศไทย จะสร้างรายได้นับแสนล้านบาท แก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ให้มีรายได้ที่มั่นคงตลอดไป เพื่อการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน ซึ่งโจทย์ที่ยากในตอนนี้คือ การสร้างความเข้าใจให้คนไทยได้เข้าถึงการใช้ประโยชน์จากกัญชา-กัญชงอย่างแท้จริง
งานพันธุ์บุรีรัมย์ ประจำปี 2565 มหกรรมกัญชา-กัญชงเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนรมิตพื้นที่ 1,200 ไร่ของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ยิ่งใหญ่-ครบทุกมิติ-ครบเครื่องที่สุด ทั้งภาคความรู้ พร้อมเสิร์ฟทุกแง่มุมจากผู้เชี่ยวชาญและกูรูที่มีชื่อเสียง เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ให้แก่เกษตรกร ประชาชน วิสาหกิจชุมชน หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน นักธุรกิจ หรือผู้ที่สนใจได้เข้าใจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
โดยเริ่มจากระบบการลงทะเบียนขออนุญาตเพาะปลูก, การเพาะปลูกในเชิงพาณิชย์และระดับอุตสาหกรรม, การควบคุมคุณภาพผลผลิตให้ได้อย่างสม่ำเสมอตามต้องการ มีคุณภาพสูง, การจัดหาตลาดให้เกษตรกร, การลงทุน -การสร้างโรงงานสกัด เทคโนโลยีการสกัดสารสำคัญ ,โรงเรือนรูปแบบอัจฉริยะ, องค์ความรู้ทั้งในแง่การผลิต, การวิจัย, การศึกษา, เทคโนโลยี, นวัตกรรมที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อเข้าสู่ตลาดในระดับนานาชาติ โดยคาดว่าจะมีบริษัทชั้นนำ ร้านค้า วิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมออกร้านมากกว่า 300 บูธ พร้อมภาคความบันเทิงสุดอลังการ ตลอด 3 วันครบจบในที่เดียว
สำหรับกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าสนใจภายในงาน อาทิ เวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ใหญ่ที่สุดของเหล่าวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกกัญชา-กัญชงในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม, ปลูกกัญ Contest การประกวดต้นกัญชาหายากและสวยงาม สมบูรณ์แบบในประเภทต่างๆ, พบกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม, ฟาร์มทัวร์ ชมแปลงปลูกกัญชงเพื่อใช้ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐาน , โรงสกัดกัญชง, ส่วนของงาน Expo & Exhibition รวมร้านค้า ผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมต่างๆ , ร้านอาหารท้องถิ่น เจ้าเด็ด เจ้าดัง อาหารเมนูเด็ด จากกัญชาให้อิ่มท้อง และยังมีมหกรรมความสนุกแบบไทยๆอีกมากมาย
ทั้งนี้ การจัดงาน “พันธุ์บุรีรัมย์” มหกรรมกัญชา-กัญชง เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2565 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นอกจากจะอัดแน่นไปด้วยความรู้ ยังมีความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่จัดเต็มตลอด 3 วัน ยังมีคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ แบ่งเป็น 2 เวที หลากหลายแนวเพลง อาทิ มิลลิ, ศิลปินจากค่าย Yupp, โจอี้ บอย, ยัวร์บอย ทีเจ, เอฟฮีโร่, โพลี่แคท, ที โบน, เซิ้งมิวสิก เอ็กซ์ ไทยบ้าน, ตั๊ก บริบูรณ์, บอล เชิญยิ้ม, แจส ชวนชื่น, ตำนานสามช่า หม่ำ-เท่ง-โหน่ง, ก้อง ห้วยไร่, เต๊ะ ตระกูลตอ, รัศมี อิสาน โซล, จ๊อบ บรรจบ, ไคโจ บราเธอร์ส และศิลปินอีกมากมาย
จำหน่ายบัตร early bird ราคาสบายกระเป๋า 1 วัน 700 บาท 3 วัน 1,700 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 กันยายน นี้ เท่านั้น ที่ www.allticket.com หรือ เซเว่น อีเลฟเว่นทุกสาขา รีบจับจองบัตรกันด่วน