กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โชว์ผลจัดโครงการ Think Rice Think Thailand ส่งเสริมการขยายตลาดข้าวไทยในฟิลิปปินส์ ประสบความสำเร็จเกินคาด ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้บริโภค รู้จักข้าวไทยมากขึ้น และมีการเจรจาธุรกิจ ยอดสั่งซื้อกว่า 153 ล้านบาท เผยยังได้ใช้โอกาสนี้นำเสนอข้าวขาวพื้นนุ่ม ได้รับความสนใจล้นหลาม มั่นใจเพิ่มส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในฟิลิปปินส์ได้เพิ่มขึ้นแน่
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ เร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกและขยายตลาดการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศต่าง ๆ นั้น
ล่าสุดได้รับรายงานจาก น.ส.จันทนา โชติมุณี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา ถึงผลการจัดโครงการ Think Rice Think Thailand ส่งเสริมการขยายตลาดข้าวไทยในฟิลิปปินส์โดยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า World Food Expo (WOFEX) 2022 ภายใต้สโลแกน “Think Rice Think Thailand” we serve the best quality rice to the world. ระหว่าง 3–6 ส.ค.2565 ณ SMX Convention Center กรุงมะนิลา ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย สามารถผลักดันให้ชาวฟิลิปปินส์รู้จักข้าวไทยเพิ่มขึ้น มีความต้องการบริโภคข้าวไทยมากขึ้น และทำให้ไทยมีโอกาสในการรักษาตลาดและขยายส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงการจัดงาน ไทยยังได้ใช้โอกาสนี้ ในการนำเสนอพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ของไทย โดยเฉพาะข้าวขาวพื้นนุ่ม ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นการดำเนินการสอดรับกับนโยบายของนายจุรินทร์ ในการผลักและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายการใช้ Soft Power ผ่านอาหารไทยในการช่วยขับเคลื่อนการค้า ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก
ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ได้จัดนิทรรศการสินค้าข้าวไทย เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมไทย ข้าวขาวพื้นนุ่มพันธุ์ กข79 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นต้น และผลิตภัณฑ์จากข้าวไทย เช่น น้ำนมข้าว โจ๊กข้าวกล้องผสม ข้าวน้ำนมอบกรอบผสมธัญพืช จัดแสดงและจำหน่ายข้าวไทยจากผู้นำเข้าฟิลิปปินส์รวม 4 ราย จัดการสาธิตการปรุงอาหารไทย โดยใช้วัตถุดิบจากข้าวไทยโดยร้าน Thai SELECT รวม 4 ร้าน และจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้า (Online Business Matching) ซึ่งมียอดการซื้อขายรวม 4,286,251 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 153.66 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดสั่งทันที 85,124 เหรียญสหรัฐ และยอดสั่งซื้อภายใน 1 ปี 4,201,127 เหรียญสหรัฐ โดยมีผู้เข้าเยี่ยมชมคูหารวม 508 ราย
ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า WOFEX 2022 ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยผู้เข้าเยี่ยมชมคูหาและกลุ่มผู้ค้า ผู้นำเข้าข้าว ได้แสดงความพึงพอใจอย่างยิ่งต่อการจัดกิจกรรมดังกล่าว และจากยอดผลการเจรจาการค้า สะท้อนให้เห็นว่าการเข้าร่วมงาน WOFEx สามารถสร้างโอกาสในการขยายการค้าข้าวระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ และข้าวไทยสามารถเข้าไปอยู่ในหัวใจของผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น และยังถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านการค้าข้าวและความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตและส่งออกข้าวคุณภาพสูงและอาหารระดับโลก นายภูสิตกล่าว
สำหรับฟิลิปปินส์ เป็นตลาดศักยภาพสำหรับสินค้าข้าวของไทย เนื่องจากเป็นประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ของโลกปีละประมาณเกือบ 3 ล้านตัน โดยฟิลิปปินส์ได้เปิดเสรีนำเข้าข้าวมาตั้งแต่ปี 2562 แทนนโยบายการจำกัดการนำเข้าเชิงปริมาณ ซึ่งถือเป็นโอกาสในการส่งออกข้าวของไทย แต่ในช่วงที่ผ่านมา ข้าวไทยยังไม่สามารถช่วงชิงโอกาสได้มากนัก เนื่องจากมีราคาสูงกว่าคู่แข่งสำคัญ เช่น เวียดนาม ทำให้แข่งขันลำบาก แต่ปัจจุบันราคาข้าวไทยปรับลดลงตามทิศทางของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้อยู่ในระดับที่แข่งขันกับคู่แข่งได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าฟิลิปปินส์จะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฟิลิปปินส์มีความเสี่ยงต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารจากผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนราคาน้ำมันและต้นทุนการผลิตปุ๋ยและธัญพืช ประกอบกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดดังกล่าวคาดว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการนำเข้าข้าวในช่วงที่เหลือของปีนี้ และที่สำคัญ ประเทศไทยอยู่ในระหว่างเร่งพัฒนาข้าวขาวพื้นนุ่มในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นชนิดข้าวที่เป็นที่ต้องการของตลาดฟิลิปปินส์ คาดว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสและศักยภาพการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดฟิลิปปินส์ต่อไป