กรมการค้าภายในจับมือปั๊มน้ำมัน พีที โออาร์-บางจาก กระจาย “ลำไยแปรรูป” ช่วยเหลือเกษตรกร

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2565 และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โดยในปี 2565 ผลผลิตลำไย มีปริมาณ 1.66 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6% ปัจจุบันผลผลิตภาพรวมในภาคเหนือออกสู่ตลาดแล้ว 65% ซึ่งในช่วงปลายฤดูผลผลิตส่วนใหญ่จะเป็นลำไยรูดร่วง และส่วนใหญ่ได้นำลำไยรูดร่วงไปเข้าโรงงานแปรรูปผลิตเป็นลำไยอบแห้ง โดยในปีนี้ กรมฯ ได้ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตลำไยอบแห้งภาคเหนือ และสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทยดูดซับผลผลิตรวม 100,000 ตัน เพื่อแปรรูปเป็นลำไยอบแห้งและส่งออกไปยังต่างประเทศ

256508111817389104124
เร่งกระจาย “ลำไย” ช่วยเหลือเกษตรกร

เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือ ซึ่งกรมการค้าภายในได้ผนึกกำลังกับสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง พีที โออาร์ และบางจาก ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย โดย กรมฯ เร่งเข้าไปรับซื้อลำไยรูดร่วงเกรด B ในราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท ซึ่งเป็นราคานำตลาดรวม 1,000 ตันสด และนำไปแปรรูปเป็นลำไยอบแห้ง ส่งต่อให้สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงกระจายผลผลิตโดยนำมามอบเป็นของสมนาคุณให้แก่ประชาชน เป็นจำนวน 1,670,000 ถุง ซึ่งจะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 14 ส.ค. 65 หรือจนกว่าสินค้าจะหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและภาคตะวันออกรวม 12 จังหวัดกว่า 800 สาขาเพื่อช่วยให้เกษตรกรได้มีช่องทางการกระจายผลผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้น

“ในส่วนของลำไยสดได้ดำเนินมาตรการเชิงรุก โดยเข้าไปรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม กรมฯ ได้ประสานผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตลำไยช่อ และลำไยรูดร่วงจากสถาบันเกษตรกรในจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย เป็นการล่วงหน้าในราคานำตลาด ภายใต้ “อมก๋อยโมเดล” ปริมาณมากกว่า 52,000 ตันสด โดยรับซื้อเกรดสดช่อ ราคา ไม่ต่ำกว่า 25-30 บาท/กก. ราคารูดร่วง เกรด B ไม่ต่ำกว่า 4 บาท/กก. ส่งผลให้ราคาลำไยเกรดสดช่อส่งออกและเกรดมัดปุ๊กในประเทศในปีนี้มีราคาที่ดีกว่าปีที่แล้วมาก โดยเกรดส่งออกราคาดีกว่าปีที่แล้ว 60% สำหรับเกรดมัดปุ๊กทั่วไปราคาดีกว่าปีที่แล้ว 89% สำหรับราคาเกรดรูดร่วง ในภาพรวมสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดย เกรด AA ราคา12-18 บาท/กก. สูงกว่าปีที่แล้ว 11% กรมฯ มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการเข้าไปช่วยเร่งกระจายผลผลิตลำไยแปรรูป จะสามารถรักษาเสถียรภาพด้านราคา ส่งผลให้สถานการณ์ราคาลำไยในภาคเหนืออยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นตลอดฤดูกาลผลิต ซึ่งจะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีช่องทางระบายผลผลิต มีรายได้ที่ดีขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน รวมถึงช่วยให้ประชาชนผู้บริโภคที่มาใช้บริการเติมน้ำสามารถเข้าถึงสินค้าดีมีคุณภาพอีกด้วย” นายวัฒนศักย์ กล่าว

ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ลำไยในเขตภาคเหนือ จะมีผลผลิตมากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม ผลผลิตจำนวน 377,567 ตัน และในเดือนกันยายน จำนวน 132,923 ตัน ได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดช่วยประสานเครือข่ายสหกรณ์ในแต่ละพื้นที่ สั่งซื้อลำไยจากสหกรณ์ผู้ผลิตภาคเหนือ เพื่อเร่งกระจายสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยให้สหกรณ์ต้นทางในภาคเหนือเปิดจุดรวบรวมลำไยจากสมาชิกและเกษตรกรในราคานำตลาด เพื่อนำมาคัดเกรดบรรจุลงตะกร้าและเร่งจัดส่งให้สหกรณ์ที่เป็นตลาดปลายทาง เพื่อให้ถึงผู้บริโภคโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยระบายลำไยได้ทันเวลาในช่วงที่ผลผลิตกำลังออกมาพร้อมกันจำนวนมาก และดึงราคาลำไยในพื้นที่ไม่ให้ตกต่ำ เป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไยอีกทางหนึ่ง

ขณะนี้ผลผลิตลำไยได้ถูกจัดส่งผ่านทางเครือข่ายสหกรณ์ในหลายจังหวัด ทั้งในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พังงา สุราษฎร์ธานี ตรัง ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูลและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ มหาสารคาม นครพนม ชัยภูมิ มุกดาหารและนครราชสีมา ซึ่งในปีที่ผ่าน ๆ มา กรมฯ ได้อุดหนุนงบประมาณจัดซื้อตะกร้าบรรจุผลไม้และรถบรรทุกสินค้าให้เครือข่ายสหกรณ์ ใช้ในการขนส่งผลผลิตการเกษตร ทำให้การจัดส่งสินค้าในเครือข่ายสหกรณ์เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วทันใจและช่วยยืดอายุของผลผลิตให้ยาวนานก่อนถึงมือผู้บริโภค