เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์โดยเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 4.1 โดยคุณแม่ท่านหนึ่งได้เล่าเรื่องราวของลูกสาวอายุเพียง 3 ขวบที่เผลอกิน บราวนี่กัญชา เข้าไป จนเกิดการเมา นอนหลับไม่ได้สติ โดยมีเนื้อหาโดยสรุปว่า ให้ข้อมูลกับคุณพ่อคุณแม่ไว้สังเกตุอาการ รวมทั้งคอยย้ำเตือนบุตรหลานในครอบครัว “บราวนี่กัญชา” กับเด็ก ๆ ไม่ได้อยากจะโพสต์ เพื่อวิจารณ์ หรือพาดพิงใคร และไม่ได้อยากจะโทษใครในเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นในวันนี้ แต่อยากจะมาเล่าเรื่องราวที่เจอในวันนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่หลาย ๆ คนที่มีลูก ได้ตระหนักและระมัดระวังกับสิ่งนี้
โดยคุณแม่เล่าอาการของลูกที่เมา “กัญชา” ว่า ช่วงเช้าสามีได้ปลุกลูกไปโรงเรียนตามปกติ ซึ่งลูกก็จะมีอาการงัวเงีย เพราะเป็นคนนอนดึก แต่อยู่ ๆ ครูได้โทรมาแจ้งว่าลูกเดินเซ ตัวสั่น เดินไม่ไหว มีอาการตัวรุม ๆ หลังจากนั้นก็หลับไปและเรียกแล้วไม่ตื่น ไม่ยอมพูดทั้ง ๆ ที่ปกติลูกสาวเป็นคนพูดเก่ง
บราวนี่กัญชา
หลังจากนั้นเธอจึงให้สามีไปรับลูกและพากลับมาเฝ้าสังเกตุอาการที่บ้าน ซึ่งยังพบว่าลูกอาการไม่ค่อยดี ไม่พูด และนอนหลับตลอด อีกทั้งยังมีอาการเพ้อในตอนกลางคืน เมื่อพบว่า ลูกสาวอาการไม่ดีขึ้นจึงตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาล ระหว่างทางคุณแม่พยายามเรียกลูกตลอดเวลาแต่ก็ยังไม่ยอมตื่นและยังอยู่ในภาวะสลืมสลือ โดยระหว่างทางเธอได้พยายามเรียกลูกตลอด พร้อมทั้งบอกให้ยกแขน ยกขา ซึ่งสามารถทำได้แต่ช้ากว่าปกติ
คุณแม่รายดังกล่าวเล่าต่อว่า หลังจากที่ถึงโรงพยาบาลลูกมีอาการซึม ผิดปกติเมื่อหมอมาดูอาการทางอาของสามีจึงบอกว่า ลูกสาวทาน “บราวนี่ผสมกัญชา” เข้าไป ณ ตอนนั้น หัวอกคนเป็นแม่พูดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งร้องไห้หน้าห้องฉุกเฉิน ทั้งนี้หลังจากที่ลูกสาวอาการดีขึ้นจากภาวะ เมากัญชา บ่นหิว อยากกินนม กินขนม แต่ก็ยังคงมีอาการง่วงนอนตลอดเวลา เรื่องดังกล่าวเธอไม่ได้โทษใคร แค่อยากแชร์เป็นอุทาหรณ์ว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดกับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจและขอให้ทุกอย่างเป็นบทเรียนให้มันเป็นบทเรียนอีกหนึ่งเรื่องที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ปล. ใครจะไปคิดล่ะว่าอาการที่ลูกเป็น คือ อาการของคนที่กำลังเมากัญชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีผลบังคับใช้เมื่อ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาและเนื่องจาก พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภา และกระทรวงสาธารณสุขออกมาตรการ 2 มาตรการ คือ
(1) การออกคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางควบคุมเหตุรำคาญจากการกระทำให้เกิดกลิ่นหรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด มาตรการนี้กระทำได้แค่เพียงระงับการสูบนั้น ๆ ไม่ให้ส่งกลิ่นหรือควันรำคาญผู้อื่นเท่านั้น แต่จะไม่สามารถห้ามไม่ให้เด็กและเยาวชนสูบกัญชาได้เลย
(2) การประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปลูกกัญชาในครัวเรือนมา“จดแจ้ง” ผ่านแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ”
แต่นโยบายนี้ทำได้เพียงการ “ขอความร่วมมือ” เพราะจะ “บังคับให้จดแจ้ง” ได้ต่อเมื่อพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. … ผ่านการตราเป็นกฎหมายแล้วเท่านั้น
ดังนั้นขณะนี้หากผู้กรอกข้อมูลให้ข้อมูลเท็จ หรือให้ข้อมูลแล้วไม่ปฏิบัติตามนั้น เช่น จดแจ้งว่าปลูกเพื่อใช้รักษาโรคตนเอง แต่จริง ๆ นำช่อดอกไปสูบเพื่อความบันเทิง หรือนำไปใส่อาหารขายก็ไม่สามารถเอาผิดได้
จึงเรียกได้ว่าเกิด “ภาวะสุญญากาศ” คือ ไม่มีมาตรการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดที่เพียงพอใด ๆ และต่อไปไทยอาจเป็น ประเทศที่กัญชาเสรีที่สุดในโลก ก็เป็นได้
