เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 ภก.สุภนัย ประเสริฐสุข ประธานชมรมเภสัชชนบท ออกแถลงการณ์ชมรมเภสัชชนบท เรื่องให้รัฐหยุด “การใช้กัญชาเสรีที่เกินขอบเขตทางการแพทย์” ใจความระบุว่า ชมรมเภสัชชนบทมีจุดยืนที่ชัดเจนมาโดยตลอดในการสนับสนุนให้มีการใช้ “กัญชาทางแพทย์” โดยผู้ป่วยประชาชนเพื่อการพึ่งตนเอง
เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ในการควบคุมกัญชา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เครือข่ายเภสัชกรซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลสู่การปฏิบัติทั้งในต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำในระดับชุมชน ได้พบข้อกังวล เมื่อพบว่าสังคมอยู่ในสภาวะ “เสรีกัญชาอย่างทั่วถึง” เกิดการใช้อย่างล้นเกินและรวดเร็วในทางสันทนาการเกินไปกว่าเจตนารมณ์พึ่งพาตนเองทางการแพทย์
กลุ่มเปราะบางและเยาวชนได้รับผลกระทบในทันที ขณะที่มาตรการป้องกันไม่เข้มแข็งเพียงพอ เกิดภาวะสับสนรายวันในการบังคับหลักเกณฑ์ข้อบังคับ
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการเตรียมกฎหมายเฉพาะในการควบคุมกัญชา จากสถานการณ์ที่สังคมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและมีแนวโน้มว่ากลุ่มเปราะบาง เยาวชน และผู้ป่วยจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังให้ได้รับผลไม่พึงประสงค์หากรัฐยังคงนโยบายเดิม ไม่หยุด “การใช้กัญชาเสรีที่เกินขอบเขตทางการแพทย์”
ชมรมเภสัชชนบท ในฐานะหน้างานที่ใกล้ชิดประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบ จึงขอให้รัฐดำเนินการ
1.ระงับการปลูกกัญชาที่ทำได้อย่างเสรีไม่มีการควบคุม มาตรการปัจจุบันที่ให้จดแจ้งไม่มีศักยภาพเพียงพอ
2.หยุดให้มีการจำหน่ายช่อดอกกัญชาอย่างเสรีในที่สาธารณะ การอนุญาตจำหน่ายต้องมีสถานที่ชัดเจน ได้รับอนุญาต จำกัดจำนวนและปริมาณและผู้ที่สามารถใช้ได้
3.การจำหน่าย นำไปเป็นส่วนผสมในอาหาร ผลิตภัณฑ์อื่นใดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ต้องแจ้ง/แสดงให้ผู้บริโภคและประชาชนทราบ
4.การเฝ้าระวัง ติดตามและรักษาผู้ที่ได้รับผลที่ไม่พึงประสงค์จากการได้รับกัญชา (ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ) ต้องเกิดขึ้นและมีการปฏิบัติในทุกพื้นทันที
5.รัฐและบุคลากรทางการแพทย์หยุดมุ่งเน้นการจัดกิจกรรม สร้างภาพลักษณ์การใช้เพื่อสันทนาการ และไม่สร้างให้เกิดการส่งเสริมการใช้โดยกลุ่มเปราะบาง เยาวชนหรือผู้ป่วย
กัญชาเพื่อการพึ่งตนเองทางการแพทย์ เป็นเจตนาที่สำคัญในการสร้างศักยภาพให้ประชาชนยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อให้สังคมมีทิศทางการใช้กัญชาที่ถูกต้องและก้าวหน้า
ทั้งนี้หนังสือดังกล่าว ลงนามโดย ภก.สุภนัย ประเสริฐสุข ประธานชมรมเภสัชชนบท