“มะม่วงอกร่อง” เป็นมะม่วงพันธุ์พื้นบ้านของประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ คนไทยเรานิยมปลูกเอาไว้กินกันตามบ้านเรือนหรือตามเรือกสวนไร่นาของตัวเอง
ในสมัย 40-50 ปีก่อน “มะม่วงอกร่อง” ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร เพราะหาได้ง่ายบ้านไหน ๆ ก็มี โดยมะม่วงพันธุ์นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ ผลสุก ซึ่งได้ชื่อว่ามีกลิ่นและรสชาติที่หอมหวานละมุนละไมที่สุด คนสมัยก่อนนิยมกินคู่กับข้าวเหนียวมูลกะทิ แล้วต้องบอกได้คำเดียวว่าอร่อยลงตัวที่สุด จะหามะม่วงพันธุ์ไหนมาแทนก็ไม่ได้
แถมในหนึ่งปีก็มีให้กินได้แค่ช่วงเดียวคือเดือนมีนาคม-เมษายน ทุกคนจึงต่างพากันยกย่องให้ “อกร่อง”เป็นมะม่วงที่ดีที่สุดเคียงคู่ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งต่อมาเมนูนี้ ก็ได้กลายเป็นอาหารหวานชื่อดังของเมืองไทยที่นักท่องเที่ยวจะต้องลิ้มลอง
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป วงการ “มะม่วงของไทย” ก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ยังคงมีการพัฒนาสายพันธุ์มะม่วงให้เกิดมีสายพันธุ์ใหม่ ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดข้อด้อยข้อเสียของมะม่วงพันธุ์ดั้งเดิมทั้งหลาย โดยมุ่งหวังผลผลิตเพื่อการค้าและการส่งออกเป็นสำคัญ
จนในที่สุดก็ได้พัฒนาสายพันธุ์ของมะม่วงน้ำดอกไม้ที่มีคุณภาพขึ้นมา แล้วยังสามารถแย่งชิงพื้นที่ในจานข้าวเหนียวมะม่วงได้อย่างแพร่หลาย จนส่งผลทำให้ มะม่วงอกร่อง ค่อย ๆ ทยอยลดหายไปจากตลาดทีละน้อยๆ อย่างไม่รู้ตัวซึ่งสาเหตุเป็นเพราะเพื่อน ๆ เกษตรกร นิยมหันมาปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้กันมาก
แม้ว่าจะมีรสชาติที่ด้อยกว่าความหอมหวานของ“มะม่วงอกร่อง” อยู่บ้างก็ตาม แต่มะม่วงน้ำดอกไม้ก็ยังอร่อย และดูสวยงามน่ากินมากกว่า มีเปลือกหนาทนต่อการขนส่ง ไม่บอบบางช้ำเน่าเสียหายง่ายเหมือนกับพันธุ์อกร่อง
นอกจากนี้ยังเก็บได้นานหลายอาทิตย์ สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้ ต่างจากมะม่วงอกร่องที่เก็บผลสุกได้แค่ไม่เกิน 2 วัน ผลจะเหี่ยวช้ำ ดังนั้นคนขายข้าวเหนียวมะม่วงจึงหันมาใช้มะม่วงน้ำดอกไม้แทน
ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้ปัจจุบันเราก็แทบจะหาซื้อมะม่วงอกร่อง ไม่ได้เลยตามท้องตลาดทั่วไปเพราะเกษตรกรปลูกกันในสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับมะม่วงพันธุ์อื่น แต่ก็ส่งผลทำให้มะม่วงอกร่อง มีราคาแพงมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 120 – 150 บาทต่อกิโลกรัม
ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกรที่มีต้นพันธุ์มะม่วงอกร่องอยู่แล้ว หรือแม้จะยังไม่เคยปลูกมะม่วงมาก่อนก็ตามเพราะทุกวันนี้ มีกลุ่มคนจำนวนมากที่สนใจอยากได้ต้นกล้าพันธุ์ของมะม่วงอกร่อง เพื่อนำไปเพาะปลูกเองที่บ้านหรือที่สวน ซึ่งการเพาะต้นกล้าพันธุ์ขาย สามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาได้รวดเร็วและลงทุนน้อยกว่าการปลูกมะม่วงเป็นสวนเพื่อเก็บผลผลิต ซึ่งราคาต้นกล้าพันธุ์ในปัจจุบัน มีราคาเฉลี่ยประมาณ 100-180 บาทแล้วแต่ขนาด หรืออายุของต้นกล้าพันธุ์ ถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีทีเดียว
ที่มา บล็อกข้อมูลด้านเกษตร สวก.
