กรมการค้าภายใน เดินหน้าดูแล “เกษตรกรชาวสวนปาล์ม” ระดมสายตรวจเฉพาะกิจ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลุยตรวจสอบ “เครื่องชั่งรถยนต์” ที่ใช้ในการรับซื้อผลผลิต “ปาล์มน้ำมัน” รวม 552 เครื่อง พบผู้กระทำผิด 47 ราย ผูกบัตรห้ามใช้ 10 ราย เปรียบเทียบปรับ 33 ราย ส่งตำรวจดำเนินคดี 4 ราย
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.-8 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้บูรณาการตรวจสอบ “เครื่องชั่งรถยนต์“รับซื้อ “ปาล์มน้ำมัน” โดยระดมสายตรวจเฉพาะกิจ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) จัดชุดสายตรวจ จำนวน 10 สาย ออกตรวจสอบเครื่องชั่ง เพื่อดูแลพี่น้อง “เกษตรกรชาวสวนปาล์ม” ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ในการซื้อขายปาล์มน้ำมันตามลานรับซื้อทั่วเขตพื้นที่ภาคใต้
ทั้งนี้ผลการตรวจสอบ “เครื่องชั่งรถยนต์” ณ ลานรับซื้อปาล์มน้ำมัน จำนวน 552 เครื่อง ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร และกระบี่ พบผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 จำนวน 47 ราย ได้ดำเนินการผูกบัตรห้ามใช้เครื่องชั่ง 10 ราย เปรียบเทียบปรับ 33 ราย และส่งพนักงานสอบสวนจำนวน 4 ราย
“จากการตรวจสอบเครื่องชั่งรถยนต์อย่างเข้มงวด กรมฯ มีความเชื่อมั่นว่า จะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้รับความเป็นธรรมในการขายผลผลิตทางการเกษตร และขอยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด โดยหากพบสถานที่รับซื้อสินค้าเกษตรแห่งใดหรือผู้ใด แก้ไขหรือดัดแปลงส่วนประกอบของเครื่องชั่งรถยนต์ หรือโปรแกรมที่ใช้กับเครื่องชั่งรถยนต์ ในการรับซื้อสินค้าเกษตรให้มีความคลาดเคลื่อนเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดที่กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ” นายอาวุธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบ เกษตรกรสามารถสังเกตจากสติ๊กเกอร์ตรวจสอบประจำปีของกองชั่งตวงวัด และหนังสือสำคัญแสดงการให้คำรับรองประจำเครื่องชั่งตวงวัด โดยหากพบเห็น หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ในการใช้เครื่องชั่งซื้อขายสินค้าเกษตร
สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ราคาผลปาล์มขึ้นไปสูงมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจากกิโลกรัมละ 2 บาทกว่า ขึ้นเป็น 4-5 บาท/กก. และไปถึง 11-12 บาท/กก. ซึ่งเกษตรกรได้รับประโยชน์สูงมาก แต่ในช่วงปลายเดือนที่แล้วราคาผลปาล์มปรับลดลงเนื่องจากอินโดนิเซียหันมาเร่งรัดการส่งออกอีกครั้งหนึ่ง มีผลทำให้ราคาในตลาดโลกปรับลดลง มีส่วนในการทำให้ราคาผลปาล์มปรับลดลงมาในช่วงนี้
