นายชลธี นุ่มหนู นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออกและประธานแปลงใหญ่ทุเรียนตำบลสะตอ เทพนิมิต แสนตุ้ง จังหวัดตราด โพสต์ข้อความว่า
“ ทุนจีนรุกคืบกว้านซื้อที่ดินปลูกทุเรียนซื้อสวนทุเรียนไว้ในกำมือผ่านนอมินีคนไทย หวังกินรวบทั้งระบบตั้งแต่สวน ล้งคัดบรรจุตู้ขนส่งยันตลาดปลายทาง แล้วชาวสวนทุเรียนไทยรายย่อยจะสู้ได้อย่างไร เมื่อทุนจีนมีทุเรียนอยู่ในมือไม่ง้อสวนคนไทยไหนจะแย่งชิงแหล่งน้ำคนไทยอีกด้วย ”
เมื่อวานนี้(1/7/67) นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่ จ.ตราด ติดตามข้อมูลการถือครองที่ดินทางการเกษตรโดยเฉพาะพื้นที่ทำสวนผลไม้และแหล่งท่องเที่ยวทางเกษตรและต่างชาติ โดยมีการเชิญทุกส่วนราชการมาให้ข้อมูล และวันนี้(2/7/67) คณะผู้ตรวจกาคแผ่นดิน จะลงพื้นที่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ติดตามปัญหากรณีมีข้อมูลว่า ต่างชาติใช้นอมินีคนไทยเป็นตัวแทนเช่าที่ป่าด้วย
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายชลธี ยังได้โพสต์เฟซบุ๊ก มีเนื้อหาว่า ร่วมประชุมกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะนายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออกและ ประธานแปลงใหญ่ทุเรียนตำบลสะตอ เทพนิมิต แสนตุ้ง เสนอปัญหาต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน 3 เรื่อง คือ 1. การถือครองที่ดินทำสวนทุเรียนผ่านนอมินีของทุนจีนอันเป็นการกินรวบ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำของทุเรียนทั้งหมด แล้วต่อไปเกษตรกรไทยจะยืนอยู่ตรงไหน
2. การลักลอบนำทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสวมสิทธิ์และส่งออกประเทศจีน เป็นการรีแพ็คสำแดงผิดในถิ่นกำเนิด สุ่มเสี่ยงต่อการตรวจพบการปนเปื้อนของสารแคดเมียม ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทย
3. ความล่าช้าของหน่วยงานราชการไทยในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะตอ ทำให้ประชาชนต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝนและน้ำแห้งในฤดูแล้งทุกปีมาเป็นเวลาช้านาน
หวังว่าปัญหาทั้งสามเรื่องที่เสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินจะถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารีบดำเนินการ โดยเร็ว