นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีมอบเงินค่าฝากเก็บรักษาคุณภาพข้าว ให้กับสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป “โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2566/67” ณ สำนักงานสหกรณ์การเกษตรมโนรมย์จำกัด อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปีการผลิต 2566/67 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2566/67 เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่าย และช่วยให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว โดยไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากแก้ปัญหาราคาตกต่ำ เป็นการดูดซับปริมาณข้าวออกสู่ตลาด และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกรปีการผลิต 2566/67 เพื่อสนับสนุนสหกรณ์การเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก และเกษตรกรทั่วไปได้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ
โดยสหกรณ์การเกษตรมโนรมย์ จำกัด ได้เข้าร่วมโครงการสินเชื่อชะลอการการขายข้าวเปลือก จำนวน 731 ราย จำนวนข้าวเปลือก 11,111 ตัน มูลค่า 137,570,804 ทำให้สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปได้รับค่าฝากเก็บรักษาคุณภาพข้าว จำนวน 5,555,500 บาท ในวันนี้ อีกทั้งเข้าร่วมโครงการสินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร รวบรวมข้าวเปลือกจากสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไป จำนวนข้าวเปลือก 101,983 ตัน มูลค่า 1,094,714,000 บาท และได้จำหน่ายข้าวเปลือกที่รวบรวมได้ 80,183 ตัน เป็นมูลค่า 823,314,000 บาท โดยมีภาคเอกชนเป็นพันธมิตรในการค้าขับเคลื่อนงานแบบบูรณาการร่วมกัน ทั้งนี้ รมช.อนุชา ได้กล่าวแสดงความชื่นชม สหกรณ์การเกษตรมโนรมย์ จำกัด ที่สามารถเป็นพึ่งของสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปได้เป็นอย่างดีตลอดมา และได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานต่าง ๆ ของรัฐบาลที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เพิ่มความมั่นคงในการประกอบอาชีพสามารถช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
“รัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่ามาตรการดังกล่าวนี้ จะเป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวนา และเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก เพื่อให้เกษตรกรรวมทั้งสถาบันเกษตรกรได้ชะลอการขายข้าวเปลือกเอาไว้ก่อนเพื่อรอราคาไม่ต้องรีบขายไปพร้อมกัน ป้องกันราคาข้าวตกต่ำ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายสำคัญคือ การลดต้นทุนการผลิต โดยเร่งศึกษาโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง อีกทั้ง ได้มีการเปิดตัวสายพันธุ์ข้าว 10 สายพันธุ์ใหม่ เพื่อให้พี่น้องชาวนาได้รับผลผลิตเพิ่มขึ้นจากการใช้พันธุ์ข้าวพันธุ์ใหม่ ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ลดความเสียหายจากการทำลายของโรค และแมลงศัตรูข้าว สามารถลดต้นทุนการผลิตข้าว ทั้งหมดนี้ตอบโจทย์นโยบายลดต้นทุนการผลิตของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ และเป็นสิ่งที่ผมอยากเห็นพี่น้องชาวนาไทยได้หลุดพ้นจากความยากจน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น“ รมช.อนุชา ย้ำ