สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศร้อนและมีฝนตกในบางพื้นที่ เตือนผู้ปลูกกาแฟ ในระยะติดผลเขียว รับมือ “มอดเจาะผลกาแฟ” มอดตัวเต็มวัยเข้าทำลาย “ผลกาแฟ” ได้ตั้งแต่ขนาด “ผลกาแฟ” มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.3 มิลลิเมตร ขึ้นไป โดยเพศเมียจะเจาะผลกาแฟบริเวณปลายผลหรือสะดือของผล ใน“ผลกาแฟ”สามารถพบ “มอด”ได้ทุกระยะการเจริญเติบโต (ระยะไข่ หนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย)
“มอดเจาะผลกาแฟ“อาศัยกัดกิน ขยายพันธุ์ในผลจนกระทั่งผลกาแฟสุกและยังสามารถอยู่ในผลกาแฟที่แห้งคาอยู่บนต้น ผลกาแฟที่หล่นลงพื้นดินและอยู่ในกาแฟกะลา(หมายถึง ผลกาแฟที่เอาส่วนของผนังผลชั้นนอกและผนังผลชั้นกลางออกแต่ยังคงมีผนังผลชั้นในหรือทีเรียกว่ากะลาติดอยู่)ได้ในระยะหนึ่ง ซึ่ง มอดเจาะผลกาแฟ ยังคงทำลายเมล็ดกาแฟกะลาระหว่างการตากเมล็ด
ร่องรอยการเข้าทำลายของ “มอดเจาะผลกาแฟ”จะเห็นเป็นรูขนาดเล็กที่ปลายผลกาแฟบริเวณสะดือผล มักสังเกตได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกษตรกรไม่ทราบ อาจไม่ทันที่จะป้องกันหรือจัดการกับ “มอดเจาะผลกาแฟ”
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
- ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง เก็บผลผลิตให้หมดต้น เมล็ดกาแฟที่ร่วงหล่นพื้นต้องเก็บออกไปเผาทำลาย เนื่องจากในแต่ละผล มอดสามารถอาศัยอยู่ได้มากถึง 65 ตัว
- ทำความสะอาดแปลง กำจัดวัชพืช
- วางกับดักสารล่อ (เมทิลแอลกอฮอล์และเอทิลแอลกอฮอล์ อัตรา 1 : 1) จำนวน 5-10 กับดักต่อไร่ เพื่อดึงดูดมอดเจาะผลกาแฟมาทำลาย วางกระจายให้ทั่วพื้นที่ กับดักจะดักแมลงได้มากที่สุดในช่วงที่ไม่มีผลกาแฟอยู่บนต้นและเติมสารล่อทุกๆ 2 สัปดาห์
- พ่นเชื้อรา Beauveria bassiana สายพันธุ์ DOA B4 อัตรา 1 ถุง (200 กรัม) ต่อน้ำ 10 ลิตร เดือนละ 1 ครั้ง ช่วงติดผลผลิตจนเก็บเกี่ยวหมด หรือโรยหรือฉีดพ่นที่พื้นดินบริเวณโคนต้นในช่วงฝนตกหรือมีความชื้นสูงเพื่อกำจัดแมลงที่อยู่ในผลแห้งที่โคนต้น
- เกษตรกรควรร่วมมือกันกำจัดแมลงในแปลงใกล้เคียงกันและทำโดยพร้อมเพรียงกัน ช่วยลดปริมาณแมลงได้เป็นอย่างดี
6.กระสอบที่เก็บเกี่ยวหรือบรรจุผลกาแฟควรเป็นกระสอบที่ทำความสะอาดง่าย สามารถกำจัดแมลงที่ตกค้างอยู่ได้และ หากพบว่ามีมอดเจาะผลกาแฟที่เก็บในกระสอบ ควรมีการปิดปากกระสอบให้มิดชิดและแยกออกจากพื้นที่นำไปทำลายให้เร็วที่สุด