ในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสน ปี 66 ที่ จ.นครปฐม – ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ม.เกษตรศาสตร์ และทีมวิจัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพพืชและการเกษตรแม่นยำ ไบโอเทค สวทช. นำผลงานปรับปรุงพันธุ์ข้าวและสายพันธุ์ข้าวดีเด่นที่วิจัยและพัฒนาร่วมนำเสนอต่อเกษตรกรที่เข้าชมงาน ชูจุดเด่นพันธุ์ข้าวรับมือภาวะโลกรวน ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม ทนต่อโรคและแมลงศัตรูพืชต่าง ๆ โดยกลุ่มข้าวเจ้า ไฮไลท์คือข้าวหอมสยาม 2 ที่คุณสมบัติเหมือนข้าวหอมมะลิ แต่ให้ผลผลิตสูงกว่า และทนใต้น้ำได้ดี รวมถึงข้าวเจ้าและข้าวเหนียวอีกหลายสายพันธุ์ที่ทนต่อสภาวะโลกรวน พร้อมนี้ยังเดินหน้าพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่ลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนจากการทำนา เพื่อการเกษตรสมัยใหม่ที่ร่วมขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ดร.มีชัย เซี่ยงหลิว นักวิจัยทีมวิจัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพพืชและการเกษตรแบบแม่นยำ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า สภาวะโลกรวน (climate change) ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดปัญหาด้านการเกษตร เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง โรคและแมลงศัตรูพืช ส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวจำเป็นต้องพัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน โดยข้าวพันธุ์ใหม่ต้องมีคุณสมบัติในการต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีปัญหา เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง มีผลผลิตสูง มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี สามารถเพิ่มมูลค่า นำไปใช้ประโยชน์ให้ครบวงจรมากขึ้น
ในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสน 2566 ทางไบโอเทค สวทช. ซึ่งมีความร่วมมือกับศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวมามากกว่า 20 ปี ในปีนี้มีผลงานวิจัยด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการปรับปรุงพันธุ์ข้าวและสายพันธุ์ข้าวดีเด่นที่พร้อมเผยแพร่ในการใช้ประโยชน์เชิงสาธารณะและเชิงพาณิชย์มาจัดแสดงทั้งในกลุ่มข้าวเจ้าและข้าวเหนียว โดยข้าวเจ้าหอมพื้นนุ่มในกลุ่มข้าวนาปี คือ ข้าวเจ้าพันธุ์หอมสยาม เด่นที่ทนแล้ง ต้านทานต่อโรคไหม้ และมีกลิ่นหอม และข้าวเจ้าพันธุ์หอมสยาม 2 เด่นที่ให้ผลผลิตสูงกว่าข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีกลิ่นหอม ทนต่อน้ำท่วมฉับพลัน และต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในระดับปานกลาง ส่วนข้าวหอมพื้นนุ่มที่เป็นกลุ่มข้าวนาปรัง ประกอบด้วย ข้าวเจ้าพันธุ์หอมมาลัยแมน เด่นที่หอมนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง เมล็ดเรียวยาวพิเศษ ให้ผลผลิตดีในการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ข้าวเจ้าพันธุ์หอมจินดา เด่นที่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรง ไม่หักล้มง่าย ต้นสูงปานกลาง ผลผลิตสูง และ
ข้าวเจ้าพันธุ์หอมนาเล เด่นที่พื้นนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง ทนน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานโรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
ข้าวหอมสยาม 2 พันธุ์ข้าวใหม่ที่รองรับสภาวะโลกรวน
ส่วนในกลุ่มข้าวเหนียว จะมีทั้งข้าวเหนียวไวแสงคือ น่าน 59 และข้าวเหนียวที่ไม่ไวแสงคือ หอมนาคา โดยข้าวเหนียวพันธุ์น่าน 59 เด่นที่มีกลิ่นหอม ต้นเตี้ย ทนการหกล้ม ต้านทานโรคไหม้ และโรคขอบใบแห้ง และข้าวเหนียวพันธุ์หอมนาคา เด่นที่ลำต้นแข็งแรง มีกลิ่นหอม และนุ่มเหนียวเมื่อหุงสุก สามารถปลูกได้ตลอดปี ทั้งหมดถือเป็นไฮไลท์พันธุ์ข้าวใหม่ที่รองรับสภาวะโลกรวนที่นำมาจัดแสดงในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสนปีนี้
“แนวทางวิจัยในปัจจุบัน นอกจากจะเน้นเดินทางในการพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อรับมือภาวะโลกรวนแล้ว ทางทีมวิจัยยังร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ม.เกษตรศาสตร์ ในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่เหมาะสม ลดและจัดการไนโตรเจนในพันธุ์ข้าว เพื่อให้เกิดศักยภาพในการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการเกษตรสมัยใหม่ที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” ดร.มีชัย เซี่ยงหลิว นักวิจัยไบโอเทค กล่าวเสริม
ทั้งนี้ ในโซนศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวที่ไบโอเทค สวทช. ร่วมจัดแสดงผลงานนิทรรศการพันธุ์ข้าวใหม่ที่รองรับสภาวะโลกรวนแล้ว ภายในโซนดังกล่าวยังมีการจำหน่ายสินค้าจากชุมชนต่าง ๆ งานแสดงนิทรรศการศิลปะบนผืนนา และการใช้เครื่องตรวจจับก๊าซที่ปลดปล่อยออกมาจากการทำนา เป็นต้น รวมถึงในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสนปีนี้ ไบโอเทค ยังร่วมนำผลงานการพัฒนาสายพันธุ์มะเขือเทศเชอรี่สายพันธุ์แดงโกเมน และซันไชน์ ที่ทนทานต่อโรคใบหงิกเหลือง มาร่วมจัดแสดงในงานด้วย ระหว่างวันที่ 1 – 11 ธันวาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม