นายสุเทพ คงมาก อดีตนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยและอดีตกรรมการ นบข. ให้สัมภาษณ์กรณีการประกวดข้าวและข้าวเวียดนามได้แชมป์ ส่วนข้าวไทยไม่ติดแม้กระทั่งอันดับ 3 ว่า ไม่ใช่ปีแรกที่ไทยไม่ได้แชมป์ข้าว จึงไม่อยากให้สนใจเรื่องแพ้ – ชนะ มากนัก ทุกวันนี้ขอแค่ชาวนา มีรายได้ไม่ถูกกดราคารับซื้อ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นพอแล้ว
“ ปี 2565 ไทย ก็ไม่ได้แชมป์ข้าว เราก็กังวลกันเหมือนตอนนี้ แต่โดยส่วนตัวมองว่า การส่งเสริมให้เกษตรกรอยู่ได้ ด้วยตัวเอง ลดการช่วยเหลือจากภาครัฐให้ได้มากทึ่สุดนั่นแหละ ถือเป็นสุดยอดการพัฒนาชาวนา ” สุเทพ กล่าวและว่า ภาครัฐมีหน้าที่พัฒนาพันธุ์ข้าวก็ทำไป วันหนึ่งพันธุ์ข้าวที่ได้รับการพัฒนาก็ส่งไปประกวดได้ ที่สำคัญการจัดประกวดเป็นของภาคเอกชน ไม่ใช่ภาครัฐ จึงไม่อยากให้กังวลกันมาก
ด้านนาย ปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย บอกว่า เสียใจที่ข้าวไทยไม่ได้แชมป์มาหลายปีแล้ว สิ่งสำคัญการประกวดข้าวควรต้องมีการประสานงานกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อคัดเลือกพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดไปประกวด ไม่เช่นนั้นหากนำพันธุ์ข้าวไปประกวดโดยไม่ปรึกษากันจะทำให้ชื่อเสียงข้าวและชาวนาไทย กระทบด้วย สิ่งสำคัญคือคำสั่งซื้อในต่างประเทศจะมุ่งไปที่ข้าวอันดับ1 -2และ 3 จากนี้ไปจึงอยากให้ภาครัฐเร่งพัฒนาคุณภาพข้าวอื่นๆ เพิ่มด้วย
ขณะที่ นายศักดา ศรีนิเวศน์ นักวิชาการอิสระด้านการเกษตร โพสต์เฟชบุ๊ค “ศักดา ศรีนิเวศน์” ระบุว่า ตามข่าวที่สื่อมีการรายงานเรื่องข้าว มีความคลาดเคลื่อน ไม่เป็นความจริง โดยระบุว่า ปีนี้ประเทศไทยไม่ได้ส่งข้าวหอมไทยเข้าประกวด เราถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก The World’s Best Rice 2023 เนื่องผู้เกี่ยวข้องมองว่า เป็นการค้า หรือการเมืองมากไป ไม่ใช่ไทยแพ้หรือตกรอบ
”เรื่องนี้ เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของพันธุ์ข้าว ST25 บอกกับผมเองว่าประเทศไทยไม่ได้ส่งเข้าประกวด ครับ“